'อนุพงษ์'ชี้ถอดยศ'ทักษิณ'ต้องยึดกม.ไม่กลั่นแกล้ง

'อนุพงษ์'ชี้ถอดยศ'ทักษิณ'ต้องยึดกม.ไม่กลั่นแกล้ง

"อนุพงษ์"ชี้ถอดยศ"ทักษิณ" ต้องยึดกฎหมายไม่กลั่นแกล้ง ระบุไม่พบหมู่บ้านเสื้อแดงแล้ว และไม่พบความเคลื่อนไหวในต่างจังหวัด หลังถอนพาสปอร์ต

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีการพิจารณาถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อาจจะมีมวลชนออกมาเคลื่อนไหว ว่า เป็นคำถามแบบเดิม ก็ต้องย้อนกลับไปใหม่ว่า ทำไม่ทำขึ้นอยู่กับกฎหมายไม่กลั่นแกล้งกัน ซึ่งประชาชนเข้าใจได้ ถ้าประชาชนเข้าใจก็ไม่มีใครต้องกังวล

เมื่อถามว่า กระแสในต่างจังหวัดมีความเคลื่อนไหวอย่างไร หลังจากกระทรวงการต่างประเทศยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ถ้าพูดอย่างนี้ก็สอนให้คนไทยรู้ว่าตอนนี้ก็ทำไปตามกฎหมาย หากวันข้างหน้าถ้าตนโดน ก็จะได้ไม่บอกว่าถูกกลั่นแกล้ง เพราะเป็นไปตามกฎหมาย ถ้าคนนั้นทำผิดกฎหมายแล้วคนมีหน้าที่ไม่ดำเนินการ ก็จะมีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา157ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วย

"การกระทำต้องเป็นไปตามเนื้อผ้า ไม่ใช่การกลั่นแกล้ง อยางไรก็ตามตอนนี้ยังไม่พบว่ามีความเคลื่อนไหวในพื้นที่แต่อย่างใด เพราะคนไทยส่วนใหญ่ในขณะนี้คงเข้าใจอะไรมากขึ้น เหตุการณ์ช่วงเวลา4-5ปีที่ผ่านมา มีพัฒนาการที่ทำให้คนรับรู้ผลกระทบที่ตามมา แล้ววันนี้คงกลับไปเดินเส้นนั้นไม่ได้"พลเอกอนุพงษ์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณี  คสช.เตรียมเรียกกลุ่มการเมืองที่ยังเคลื่อนไหวมาพูดคุยอีกครั้ง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นเรื่องนี้ ตอนนี้เขาก็ฟังอยู่ หากต้องการจะพูดก็อย่าพูดให้เกิดความแตกแยก ขอให้รอเวลาเมื่อรัฐธรรมนูญเสร็จเสียก่อน ส่วนกระแสข่าวที่มีเจ้าหน้าที่ทหารประสานฝ่ายปกครองเพื่อขอความร่วมมือห้ามฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยจัดประชุมชี้แจงอดีต ส.ส. เพื่อแนะแนวทางต่อ สนช. ที่จะลงมติถอดถอนกรณีการลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า รมว.มหาดไทย กล่าวว่า อยากพูดว่าตอนนี้อย่าเอาอะไรมาเป็นเงื่อนไขเพื่อทำให้เกิดความขัดแย้ง เพราะหลักการทำงานคือมีอะไรต้องว่าไปตามกฎหมาย ถ้าไม่ยืนตามจุดนี้แล้วมากล่าวอ้างว่า ถูกกลั่นแกล้ง ก็เดินไปไม่ได้ อย่าเอาทุกอย่างหรือมวลชนมาทำให้เกิดความขัดแย้ง ที่สำคัญหากมองไปลึกๆ จะเห็นว่าความขัดแย้งของคนมันแก้ไม่ได้

เมื่อถามว่ามีการสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปติดตามหรือไม่ว่าพื้นที่ใดมีความเคลื่อนไหวผิดปกติบ้าง พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า คสช.ไม่ต้องการให้เกิดความปลุกปั่นขัดแย้งกันในช่วงนี้ มีการห้ามไม่ให้ชุมนุมกัน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย กระทรวงมหาดไทยกำชับไปยังผู้ว่าฯเรื่องการปกครอง จะต้องไม่ทำให้คนมาปลุกปั่น เพื่อให้เกิดความขัดแย้ง และลุกลามจนเกิดความรุนแรง 

"ขอย้ำว่าสิ่งที่มหาดไทยทำคืออย่าเอาคนมาขัดแย้งกันที่ผ่านมาผมพยายามชี้แจงทั้งผู้ว่าฯ นายอำเภอ และระดับท้องถิ่น เกี่ยวกับเรื่องนี้มาตลอด ความชอบที่ไม่เหมือนกันนั้นไม่เป็นไร แต่อย่ามาขัดแย้งกัน"พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว 

สำหรับพื้นที่ปักธงหมู่บ้านเสื้อแดงในภาคอีสานขณะนี้ มท.1 กล่าวว่า ขณะนี้ก็ไม่เห็นมี อย่างที่บอกจะชอบสีใดก็ไม่ว่า แต่อย่ายุยงให้ข้อมูลผิดๆ และนำมวลชนมาต่อรองทางการเมืองเหมือนในอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ นักปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ จะทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะมีหน้าที่ทำให้คนอยู่ร่วมกันได้ท่ามกลางความคิดที่แตกต่างกัน 

เมื่อถามว่า หากจังหวัดใดที่ผู้ว่าฯปล่อยให้การปลุกปั่นมวลชนเกิดขึ้น จะมีการคาดโทษอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้คาดโทษ แต่ได้กำชับไป ถ้าไม่ทำตามนโยบาย ไม่ใช่คาดโทษ แต่จะลงโทษเอง จะให้เอาคนมาตีกันจนเกิดจลาจล บ้านเมือง เศรษฐกิจเสียหายไม่ได้ ต่อข้อถามว่าช่วงเวลานี้มีผู้ว่าฯอยู่ในข่ายถูกจับตาถูกโยกย้ายบ้างหรือไม่นั้น พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ก็มีย้ายเหมือนกัน คือคนที่โดนโทษก็ต้องมีคนไปแทน ถ้าเรารอก็ต้องรอเดือนตุลาคม ซึ่งมันรอไม่ได้ เราก็ต้องสับ ถ้าจังหวัดใหญ่โดนก็เอาจังหวัดเล็กมาอยู่แทน เพราะขั้นตอนในการนำรองผู้ว่าฯขึ้นมารักษาราชการแทนใช้เวลา 40-50วันมันไม่ได้ เรารอไม่ได้ ก็ต้องหมุนจังหวัดก่อน จังหวัดเล็กก็ให้รองผู้ว่าฯรักษาราชการแทน"

เมื่อถามว่า แสดงว่าเดือนมิ.ย.จะมีการปรับย้ายผู้ว่าฯ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า “คงต้องมี ในกรณีนี้นะครับ แต่ไม่ใช่ปรับย้ายใหญ่ที่ต้องไปรอสิ้นปี เพราะต้องสอบและแสดงวิสัยทัศน์กัน”