จับขบวนการค้ายาภาคเหนือมูลค่ากว่า 450 ล้าน

จับขบวนการค้ายาภาคเหนือมูลค่ากว่า 450 ล้าน

จับขบวนการค้ายาเครือข่ายภาคเหนือ พบยาไอซ์21.5 กิโล ยาบ้า 2 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 450 ล้านบาท

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. , พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 , พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. , พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.น.4 , พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รอง ผบก.น.4. , พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.สส.บก.น.4 ., พ.ต.อ.สุวิชชา จินดาคำ ผกก.สน.บางชัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.4 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน เจ้าหน้าที่ทหาร ร.21 รอ. ค่ายนวมินทร์ จ.ชลบุรี เจ้ากองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ร่วมกันเข้าตรวจค้นเลขที่ 52/19 ซอยรามคำแหง 110 แยกซี3 ถนนรามคำแหง แขวงและเขตสะพานสูง กทม. หลังจากสืบทราบจุดพักยาเสพติดรายใหญ่

โดยที่เกิดเหตุบ้านเดี่ยว สูง 1 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 50 ตร.วา ภายในบ้านพบ นายภูวดล จินดาวงศ์ อายุ 31 ปี และนายวีรชาติ สังวาลย์วงค์ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาเสพติด (ไอซ์) น้ำหนัก 21.5 กิโลกรัม และยาบ้า จำนวน 2,000,000 เม็ด รถยนตร์ฮอนด้า ซีอาวี สีบรอนด์เทา กมายเลขทะเบียน ฌข9951 กรุงเทพมหานคร รถจยย.ฮอาด้า เวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขพว 481 หมวดจังหวัดเชียงราย สมุดบัญชีรับและส่ง 1 เล่ม ถุงดำ 25 ถุง ปีบหน่อไม้ 50 ปีบ กระเป๋าบรรจุยาเสพติด 1 ใบ เงินสด 220 บาท ตราช่าง 1 เครื่อง ถุงพลาสติก 1 ใบ คีมตัดปีบ 1 อัน กระสอบถุงปุ๋ย 1 ถุง กระเป๋าสะพายหลังลายทหาร 2 ใบ สร้อยคอทองคำ 1 เส้น พระเครื่อง 3 องค์ ฟรอยด์ 1 ม้วน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ป้ายทะเบียนรถ หมายเลขทะเบียน 1 ก 591 กรุงเทพมหานคร 2 แผ่น เจ้าหน้าที่รวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวผู้ต้อหาสอบสวน

พล.ต.อ.พงศพัศ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากนโยบายจากรัฐบาลให้เร่งรัดปราบปราบขบวนการค้ายาเสพติดที่หลั่งไหลเข้าในกรุงเทพมหานคร จึงสั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล เร่งปราบปราบรวมทั้งทำการสกัดกั้นการแพร่ระบาด โดยครั้งนี้จากการเข้าตรวจสอบเบื้องต้นพบผู้ต้องหาสองรายทางเจ้าหน้าที่ติดตามตัวมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้มาเช่าบ้านหลังนี้เป็นระยะเวลาประเดือนกว่าแล้วเจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุม จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบยาบ้ากว่า2ล้านเม็ด ยาไอซ์ 21 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 450 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากเครือข่ายทางภาคเหนือ หลากหลายเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายยี่เซ เครือข่ายว้า ที่เม็ดยาบ้ามีสัญลักษณ์ตรามือ, ดับบิว วาย (wy) ,เอ999 (a999) ซึ่งลำเลียงมาจากจ.พระนครศรีอยุธยา โดยซุกซ่อนใส่ปี๊ปหน่อไม้มา ก่อนนำมาพักบ้านหลังนี้ เพื่อเตรียมแบ่งจำหน่ายให้ผู้ค้ารายย่อย ตามคำสั่งของผู้จ้างวาน ส่วนจะนำไปกระจายที่จุดไหนอยู่ระหว่างการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ได้มีคำสั่งให้กวดขันจับกุมมาโดยตลอด

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองยอมรับสารภาพว่า เป็นชาวเชียงราย มีหน้าที่ขับรถยนตร์ฮอนด้าซีอาวี ที่ทำการดัดแปลงเพื่ออำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ ไปรับยาเสพติดที่บรรทุกรถสิบล้อมานัดรับยาเสพติดที่ปั๊มน้ำมันย่านชานเมือง มาพักไว้ที่บ้านแห่งนี้ ซึ่งพวกตนทำมาแล้ว 3 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่มากที่สุด แต่ละครั้งจะได้รับค่าจ้าง 2 แสน บาท สำหรับครั้งนี้จะนำไปปล่อยให้ผู้ค้ารายย่อย ในย่านคลองเตย และร่มเกล้า โดยใช้เวลาประมาณ 30 วันถึงจะหมด แต่มาถูกจับกุมก่อน สำหรับบ้านหลังนี้พวกตนเลือกทำเลที่ไม่มีคนพลุกพล่าน ไม่มีกล้องวงจรปิด ทำให้สะดวกต่อการพักยาเสพติด เช่าเพียงเดือนละ 15,000 บาท ซึ่งเช่าอาศัยมาได้ 2 เดือนแล้ว โดยบ้านหลังนี้ไว้สำหรับพักยาเสพติดและนำยาเสพติดที่รับมาแบ่งบรรจุปีบใส่หน่อไม้หวังอำพรางสายตาตำรวจอีกด้วย  

"อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ได้มอบหมายให้ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำยาเสพติดทั้งหมดส่งเข้าห้องแล็ป สำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อจำแนกชนิดยาและที่มาของยาเสพติด รวมทั้งให้ตำรวจนคบาลทำการขยายผลเพื่อติดตามตำการณ์รายสำคัญในขบวนการดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ยาเสพติดดังกล่าวหากเล็ดรอดสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้ จะส่งผลกระทบต่อประชาชนในกรุงเทพมหานคร แล้วอาจจะถึงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย" รอง ผบ.ตร.กล่าว