นักวิชาการจี้ 'กสทช.' ขอยกเลิกใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ได้หรือไม่

นักวิชาการจี้ 'กสทช.' ขอยกเลิกใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ได้หรือไม่

ฮอตโซเชียล! นักวิชาการ จี้ "กสทช." ขอยกเลิกใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ทำได้หรือไม่ หลังเกิดปัญหากรณี "เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล"

จากกรณีนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล” ประธานกรรมการบริหารบริษัทไทยทีวี จำกัด ขอเลิกใบอนุญาต และการประกอบกิจการ เรียน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แต่อาจต้องแบกภาระค่าสัมปทานทั้งหมด แม้จะต้องการยกเลิกก็ตาม

ประเด็นดังกล่าว นายธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการสื่อสาธารณะ ได้โพสต์แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ค Time Chuastapanasiri ระบุว่า DEADLOCK กสท.กับไทยทีวี "อยากเลิกแต่เลิกไม่ได้ หรือ ซื้อแล้วไม่รับคืน?" 

นอกจากประเด็นว่า กสทช. ทำงานล่าช้า การแจกคูปองไม่เป็นไปตามเป้า ขยายโครงข่ายไม่ทันตามแผน ซึ่งเป็นข้ออ้างเหตุผลของเจ๊ติ๋ม หรือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลรายๆ รายที่อาจจะใช้ข้อนี้ รวมตัวกันฟ้องร้อง กสทช. แล้วผมยังคิดว่ามีประเด็นหนึ่งเลยที่อาจจะยังไม่ได้พูดถึงคือเรื่อง "การขอยกเลิกใบอนุญาก่อนอายุสัญญา"

ผมมีประเด็น ถาม(แทน) เจ๊ติ๋ม ถามไปยัง กสทช. ว่าขอยกเลิกใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ทำได้หรือไม่?
กรณีที่ผู้ประกอบการ อยากขอสิ้นสุด ขอยกเลิก ขอยุติ ขอคืนใบอนุญาต จะทำได้หรือไม่ (ซึ่งในมุมการทำธุรกิจปกติ ก็ควรทำได้) คำถามคือ จะทำอย่างไร? ทำตามกฎหมายไหน ประกาศใด?

เท่าที่ผมทราบ เนื้อหาใน "ประกาศกสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่ เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖" (ดูเนื้อหาที่ ) นั้น "มิได้" เขียนระบุถึงลักษณะการ "ขอยกเลิก" เลยนะครับ คือหาอ่านตรงไหนก็ไม่เจอ

พูดง่ายๆ คือ ประกาศฉบับนี้ ดูเหมือนจะมีเนื้อหาที่กำหนดให้ "ผู้ประมูล" ต้องทนทำธุรกิจจนจบ 15 ปี โดยไม่มีข้อเว้นการยกเลิก ถ้าไปอ่านเนื้อหาจริงๆ จะอยู่ที่ ข้อ 10.2 ครับ วรรคสุดท้าย ดังนี้ครับ

"กรณีที่ผู้ชนะการประมูลหรือผู้รับใบอนุญาตไม่ชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่
ให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กําหนด จะต้องชําระค่าธรรมเนียมเพิ่มเป็นจํานวนเงินเท่ากับผลคูณของจํานวนเงินค่าธรรมเนียมที่ค้างชําระกับอัตราดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่ง คูณกับสัดส่วนของจํานวนวันที่ค้างชําระต่อจํานวนวันในหนึ่งปี (๓๖๐ วัน) หากพ้นกําหนดชําระเงินตามเวลาที่ระบุ จะถือว่าผู้รับใบอนุญาตกระทําผิด เงื่อนไขของประกาศนี้ และคณะกรรมการอาจพิจารณาพักหรือเพิกถอนใบอนุญาตได้"

ผมตีความหมายของวรรคนี้ คือ "ถ้าผู้รับใบอนุญาต ไม่ชำระค่าใบอนุญาตตามที่กำหนด - ก็จะต้องมาจ่ายเพิ่มเป็นจำนวนเงินค้างบวกค่าดอกเบี้ย ถ่วงน้ำหนักจำนวนวันที่ล่าช้า"

พูดง่ายๆ คือ จ่ายช้า ต้องมาจ่ายและบวกค่าปรับด้วยอยู่ดีนั่นแหละ

แต่กรณีของ "ไทยทีวี" เจ๊ติ๋มนั้น เธออาจจะ "อยากยกเลิก และไม่อยากทำ และไม่อยากมาจ่าย" คือ เธอไม่ได้ต้องการทำต่อ เธออยากเลิกและไม่อยากจ่ายอีกต่อไปแล้ว ไม่อยากทำแล้ว อยากบอกเลิกสัญญา

เช่นนั้น กสท. ต้องพิจารณาทันที ว่า "ตอนนี้เจ๊ติ๋ม และไทยทีวี ช่องโลก้า" ได้ทำผิดเพราะพ้นวันกำหนดชำระไปแล้ว ซึ่งประเด็นที่สำคัญ "กสท." มีหน้าที่พิจารณาทันทีว่า ต้อง "พักใบอนุญาต หรือ เพิกถอนใบอนุญาตไปเลย"

พุดง่ายๆ คือ กสท. มีหน้าที่ "สั่งระงับออกอากาศ ให้จอดำ หรือ เพิกถอนได้เลย"

ประเด็นมันซับซ้อนอีรุงตุงนังตรงที่ "กสท." ดันพยายามดื้อดึงดันให้เจ๊ติ๋ม ไปหาผู้ร่วมทุน หรือ หาคนมาช่วยร่วมทำธุรกิจ แต่ประเด็นที่ปรากฎผ่านข่าวคือ เจ๊ติ๋มอาจจะหาผู้ร่วมทุนมาแล้วหลายครั้ง และก็พยายามเพิ่มทุนธุรกิจมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่สำเร็จ ประสบปัญหาขาดทุนอยู่ เพราะฉะนั้น ทางออกที่ กสท. แนะนำนั้น "เจ๊ติ๋ม" ไม่น่าจะยอมทำตามแล้ว" เพราะเดาว่าเธออาจจอยากยกเลิกจริงๆ

ฉะนั้น ที่ผม "คิดว่ามันไม่เป็นธรรม คือ ถ้าอยากเลิก ต้องเลิกได้ อยากคืนต้องคืนได้ และถ้าคืนคลื่นก็ควรจ่ายให้เฉพาะปี งวดที่ใช้จริงตลอดอายุสัมปทาน เช่น จ่ายให้แค่ปีเดียว เพราะอยากเลิกในปีนั้น หรือไม่งั้น ก็จ่ายให้แค่งวดแรกงวดเดียว (ซึ่งมากถึง 50%) และส่วนที่เหลือไม่ควรต้องจ่าย"

ไม่เช่นนั้นมันก็แปลกๆ สินะครับ ที่จะต้องจ่ายค่าสัมปทาน ทั้งหมด 100% แต่อยากจะยกเลิกธุรกิจตั้งแต่ปีแรก ก็ต้องจ่ายหมดทุกบาท แล้วค่อยไปยกเลิก

อ้าว เช่นนั้นประกาศ กสทช. ก็ผิดเพี้ยงตามหลักการทำธุรกิจน่ะสิครับ

เพราะผมเชื่อว่า ต่อไปในอนาคต อาจจะมีหลายช่อง หลายผู้ประกอบการยกเลิกใบอนุญาต
และถ้าเขาอยากเลิก แต่ติดขัดว่า เลิกได้ แต่ต้องจ่ายเงินค่าใบอนุญาตให้หมดทุกบาท แล้วใครจะอยากทำเล่าครับ
แบบนี้ก็เหมือน "ซื้อแล้วไม่รับคืน - ไปหาคนซื้อต่อเอง" ซึ่งเป็นหน้าที่ภาระหน้าที่ของผู้รับใบอนุญาต แต่ กสทช. ดันออกระเบียบมาอีกแต่แรกเลยว่า "ผู้รับใบอนุญาตต้องดำเนินธุรกิจเอง ห้ามเอาใบอนุญาตไปขายต่อ" แล้วจะทำยังไงเล่าครับ ขายใบอนุญาตก็ไม่ได้ คืนก็ต้องจ่ายเต็มทุกบาท

และตอนนี้ กรรมการ กสทช. ก็พูดเหมือนกันหมดเลยว่า "เลิกได้ คืนได้ แต่ต้องจ่ายเงินให้ครบ"

พูดแบบนี้ผมว่า "ฝั่งธุรกิจเหมือนถูกมัดมือชกให้ต้องชกบนเวทีจนจบครบ 15 ยกเลยนะครับ"

ผมว่ามันแปลกๆ เช่นเวลาที่เราซื้อบ้าน ผ่อนรถ หากเราขาดส่งค่างวด สามสี่เดือน เราก็โดนไฟแนนซ์ยึด โดนธนาคารยึดใช่ไหมครับ และโดนฟ้องร้องทางศาล ให้เราหลุดจากสินทรัพย์นั้น ไม่ส่งค่างวดรถ โดนยึด ก็ไม่ต้องส่งต่อจนหมด ไม่ส่งค่าบ้าน ก็โดนยึด และก็ไม่ต้องส่งต่อ

ทีนี้ค่าใบอนุญาตนี้ ก็น่าจะเหมือนกันไหมครับ เมื่อตัดสินใจไม่ทำธุรกิจต่อแล้ว ก็น่าจะไม่ต้องส่งค่างวดจนหมดนะครับ

เรื่องนี้ กสทช. และ กสท. ต้องนั่งจับเข่าคุยกันจริงๆ แล้วนะครับว่า กฎเกณฑ์ระเบียบที่ออกมานั้น มีปัญหาหรือไม่ และการออกประกาศในอนาคต การแก้ไขกรณีเจ๊ติ๋มนั้น จะนำไปสู่การวางมาตรฐานการบอกเลิกสัญญาระหว่างผู้รับใบอนุญาตและกสทช. ในฐานะหน่วยงานรัฐ