ชงครม.สัปดาห์หน้าเยียวยาผู้รับผลกระทบม็อบปี 56-57

ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการพิจารณาเพื่อเยียวยาทางการเงินแก่ผู้ประสบภัยจากการชุมนุม ว่า การชุมนุมมี 2 ช่วงคือ ปี 2547-2553 และช่วงปี 2556-2557 มีผู้ประสบความเดือดร้อน เสียชีวิต ทุพลภาพ บาดเจ็บ บางคนประกอบอาชีพไม่ได้ มีบุตร มีภาระต้องดูแล หรือแม้กระทั่งมีการสูญเสียทรัพย์สิน ก็ได้นำมาพิจารณา ซึ่งรัฐบาลนี้ได้แถลงนโยบายเมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งว่าจะพยายามสร้างความสามัคคีปรองดอง และจะเยียวยาแก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะจากการชุมนุมต่างๆ ซึ่งปรากฏอยู่ในนโยบาย ซึ่งคงจะต้องมีการเยียวยา แต่จะเยียวยาอย่างไร เท่าไหร่นั้น การประชุมวันนี้ตนจึงขอให้แยกออกเป็น 2 ช่วงเวลาที่มีการชุมนุม โดยจำเป็นต้องนำช่วงเวลาที่ 2 คือปี 2556-2557 ขึ้นมาพิจารณาก่อน เพราะมีความปลอดภัย ต่างจากช่วงแรก (2547-2553) ที่หากพิจารณาไปทางใดทางหนึ่งคงไม่เหมาะสมหรือไม่ปลอดภัย เนื่องจากคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. ที่มีนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช.เป็นประธานนั้น ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จ่ายเงินเยียวยาผู้ชุมนุมในอัตราที่สูงนั้นเป็นเรื่องที่ผิดเนื่องจากไม่มีหลักเกณฑ์หรือกฎหมายรองรับ ด้วยเหตุนี้เราจะพิจารณาเพื่อทำผิดซ้ำอีกคงไม่ถูก คงต้องหยุดเอาไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม เราก็เอาบทเรียนจากคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะที่ 2 ที่ได้วางหลักไว้ รวมถึงหลักเกณฑ์ที่คณะอนุกรรมการป.ป.ช.ได้วางไว้ ก็คิดว่าก็มีแนวทางดำเนินการได้ ซึ่งก็เตรียมที่จะเสนอครม.ในสัปดาห์หน้า แต่หากไม่ทันคงเป็นสัปดาห์ถัดไป ว่า 1.ให้มีการเยียวยา และ 2.ได้มีการนำเอาหลักเกณฑ์ทางกฎหมายที่มีอยู่มาเป็นฐาน  

"ที่มันยุ่งขึ้นมา เพราะว่าพิจารณาโดยไม่มีกฎหมายอะไรมาเป็นฐานรองรับ คำว่าเป็นฐานแปลว่า ไม่ได้ใช้กฎหมายนั้นเป๊ะๆ ตายตัว เพราะถ้าเป๊ะๆ ตายตัว กรรมการไม่ต้องมี ก็จ่ายเงินตามกฎหมายเลย แต่เนื่องจากตามกฎหมายบางฉบับกว้างไป บางฉบับแคบไป บางฉบับผู้ชุมนุมไม่เข้าเกณฑ์ตามกฎหมายนั้นเป๊ะ หรือบางทีเงินตามกฎหมายมันน้อยเกินไป ก็เอากฎหมาย 4 ฉบับบวกหลักเกณฑ์อีกหนึ่ง เป็นฐานเพื่อให้มีอะไรเป็นตัวเกาะยึดเอาไว้ ถ้าไม่ยึดไว้ก็จะไม่ปลอดภัย คือ 1.พ.ร.บ.ค่าเสียหายที่ให้มีการชดเชยหรือจ่ายให้แก่จำเลยในคดีอาญาของกระทรวงยุติธรรม 2.พ.ร.บ.สงเคราะห์ผู้ประสบภัยจากรถ 3.พ.ร.บ.ประกันสังคม และ 4.กฎหมายที่ป.ป.ช.ยกตัวอย่าง ตอนแจ้งข้อกล่าวหาต่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือพ.ร.บ.สงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ.2543 แปลว่าเรามีกฎหมาย 4ฉบับในมือ ไม่ได้มโนหรือจินตนาการเอาว่า เอาไปเลย 7 ล้าน หรือ 10 ล้าน ไม่ใช่ เพราะต้องนำพ.ร.บ. 4 ฉบับนี้มาเป็นตัวตั้ง บวกกับหลักเกณฑ์ในการจ่ายเงินเยียวยาผู้ที่ประสบภัยในกรณีจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ที่มีการจ่ายมาแล้ว และดูเป็นที่ยอมรับ ไม่ถูกคัดค้านโต้แย้ง รวมแล้ว 4พ.ร.บ. บวก 1 หลักเกณฑ์" นายวิษณุ กล่าว  

"วิษณุ"เผยตายได้ 4 แสน    

นายวิษณุ กล่าวว่า จากตัวนี้จึงออกมาเป็นตัวเลขคร่าวๆ เช่น ผู้เสียชีวิตครั้งชุมนุมปี 56-57 ก็จะได้เงินเยียวยา 4 แสนบาท ตามเกณฑ์ แต่กรณีเสียชีวิตแล้วมีลูกหรือภาระที่ต้องเลี้ยงดู ตรงนี้ก็เป็นเรื่องของเงินสงเคราะห์บุตรอีกส่วนหนึ่ง หรือกรณีที่ได้รับบาดเจ็บ ก็มีหลักเกณฑ์แล้วว่าจ่ายเท่าไหร่ ส่วนกรณีทุพลภาพ ไม่สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพได้ ก็จะมีการสงเคราะห์เป็นรายเดือน ตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายไปตลอดชีวิต และยังจะมีกรณีที่เสียหายแก่ทรัพย์สิน ก็มีหลักเกณฑ์เช่นกัน อย่างไรก็ตาม กรณีการจ่ายเงินเยียวยานี้จะไม่มีการผูกกับมติครม.ครั้งเก่า เมื่อปี 2555 ไม่จำเป็นต้องพูดถึงอีก และอาจจะมีการขอยกเลิกด้วยซ้ำ โดยจะเป็นมติของปี 2558 มาแทน    

เผย รอป.ป.ช. ปมผู้ได้รับผลกระทบชุมนุมปี 47-53   

นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนกรณีของการเยียวยาผู้เสียหายการชุมนุมในช่วงแรก (2547-2553) นั้น เราก็วิตกว่า ถ้าไม่ช่วยเหลือเขาในเวลานี้ก็จะกลายเป็นว่า รายเก่าไม่ได้เงิน กลับเป็นรายใหม่ได้เงินก่อน มันก็ไม่ยุติธรรม แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า จนถึงขณะนี้ไม่มีผู้เสียหายที่ยังไม่ได้รับเงินสงเคราะห์ แต่ประเภทที่จ่ายไปก่อนแล้ว เช่น กรณีเสียชีวิตที่จ่ายไป 4 แสนบาทนั้นมี สรุปคือ ได้รับเงินเยียวยาหมดทุกคน มีบางรายด้วยซ้ำที่ได้ไปถึง 7.5 ล้านบาท ซึ่งวันนี้ ก็มีปัญหาอยู่ว่าถูกหรือผิด อยู่ระหว่างการพิจารณาของป.ป.ช. จึงไม่อยากไปแตะเพื่อทำผิดซ้ำอีกในส่วนนั้น แต่ส่วนที่เคยวิตกว่า จะมีคนที่ไม่ได้เงินสักบาทรออยู่ในกลุ่มนั้น ตอบได้เลยว่าไม่มี ถึงอย่างไรก็ต้องได้ไปแล้ว แต่จะได้กี่บาทเท่านั้นเอง ถ้าได้มากไปเราก็ยังไม่คิดจะไปเอาคืนในเวลานี้เพราะไม่รู้ว่าที่จ่ายไปนั้นถูกหรือผิด ถ้าได้น้อยไปกว่า 4 แสนบาทตามเกณฑ์ก็ถือว่าได้ไปแล้วส่วนหนึ่ง ทีหลังจะเพิ่มหรือไม่ ก็ไว้ฟังป.ป.ช.หรือศาล พิจารณาว่าการจ่ายเงินนั้นถูกหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมกรรมการจึงไม่กำหนดหลักเกณฑ์เสียเอง นายวิษณุ กล่าวว่า นี่คือหลักเกณฑ์ที่กำหนด ส่วนที่บอกว่า กรณีจ่ายเงินเยียวยาจังหวัดชายใต้ภาคใต้มากกว่า 4 แสนบาทนั้น เนื่องจากมีค่าเยียวยาของบุตรและส่วนอื่นมารวมจึงมากกว่า 4 แสน สมมติ นาย ก. ตาย แล้วนาย ก. มีลูก 3 คน ก็จะมีเงินจ่ายเรื่องตาย และจ่ายเรื่องลูก ซึ่งถ้านำหลายส่วนมาบวกกันก็จะมากกว่า 4 แสนบาท ซึ่งต้องมีการแยกเป็นรายการ เพราะฉะนั้น กรณีนี้ไม่ได้เป็นกรณีที่เกินกว่าภาคใต้ อย่างไรก็ตามหากจะไปเขียนระเบียบขึ้นใหม่ ก็เขียนได้ แต่ก็เสี่ยงที่ระเบียบนั้นจะผิดขึ้นมา จึงต้องรอทางป.ป.ช. มีความชัดเจนกว่านี้  

“การเยียวยาในที่นี้ เป็นการเยียวยาเพื่อมนุษยธรรม เพราะฉะนั้นการเยียวยาหรือชดเชย เพราะสิทธิอื่นมันมีอยู่ เป็นไปตามกฎหมายอื่น บางคนได้รับการเยียวยาที่ไม่เป็นตัวเงิน กรณีได้รับคำแนะนำจากจิตแพทย์ หรือได้รับการช่วยเหลือจากสถานสงเคราะห์ นั่นเป็นความช่วยเหลือต่างหาก จนกระทั่งคนที่บาดเจ็บหรือตาย รู้ว่าใครเป็นคนยิง เช่น ตำรวจเป็นผู้กระทำ หน่วยงานต้องรับผิดชอบ และไปฟ้องร้องกันเองต่างหาก แต่นี่เป็นเงินที่ให้โดยไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม” นายวิษณุ กล่าว  

ผู้สื่อข่าวถามว่า มาตรการนี้จะมีผลเมื่อไหร่ นายวิษณุ กล่าวว่า เมื่อผ่านที่ประชุมครม. มีมติออกมาก็สามารถดำเนินการได้ทันที โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการจ่ายเงินเยียวยามาโดยตลอด เพราะเจ้าหน้าที่มีความเชี่ยวชาญ แต่ก็ได้ขอให้ทุกหน่วยงาน ช่วยส่งข้อมูลตัวเลขและรายชื่อของผู้ที่จะได้รับการเยียวยาไป เพราะไม่อยากให้จ่ายซ้ำซ้อน

คาด วงเงินเพียงหลักร้อยล้าน  

ผู้สื่อข่าวถามว่า วงเงินทั้งหมดในการจ่ายจำนวนเท่าไหร่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้คิด เพราะคราวที่แล้วก็เคยตั้งไว้ 2 พันล้านบาท ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งวงเงินในการจ่ายเยียวยาครั้งนี้ไม่มาก เพราะวงเงินที่จะจ่ายแต่ละคนก็ไม่เยอะอยู่แล้ว คิดว่าไม่เยอะ และเมื่อได้ถามที่ประชุมวันนี้ว่าวงเงิน 2 พันล้านบาทที่ตั้งไว้สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังมีเหลือหรือไม่ ก็ได้คำตอบว่ายังมีเหลืออยู่ และได้ส่งเข้าคลังหมดแล้ว ถ้าครม.เห็นชอบก็จะไปขอวงเงินกลับมา ซึ่งตนคิดว่าไม่มาก เป็นหลักร้อยล้านเท่านั้น

  

--------------------------------------