'ประยุทธ์'ให้โอวาทนักกีฬาซีเกมส์ เปรยชิงเหรียญสร้างชาติสงบ

'ประยุทธ์'ให้โอวาทนักกีฬาซีเกมส์ เปรยชิงเหรียญสร้างชาติสงบ

"พล.อ.ประยุทธ์" ให้โอวาทนักกีฬาซีเกมส์ฝากสร้างภาพลักษณ์ประเทศ บอกวันนี้นายกฯกำลังชิงเหรียญสร้างชาติสงบ ไม่รื้อฟื้นใครทำประเทศเสียหาย

เมื่อเวลา 15.30 น. พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นำคณะกรรมการฯ คณะเจ้าหน้าที่และนักกีฬา เข้ารับโอวาทจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก่อนเดินทางไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีและชื่นชมนักกีฬาที่ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่28 ที่ประเทศสิงคโปร์ในครั้งนี้ การแข่งขันกีฬาซีเกมส์เป็นสัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์ที่ดีอันเข้มแข็งในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน วันนี้ทุกประเทศกับประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันทั้งในระดับผู้นำ รัฐบาล และประชาชนโดยทั่วกัน มีการพบปะเยี่ยมเยือนกันอยู่เสมอถือว่าเป็นความก้าวหน้าอีกด้านหนึ่ง นอกจากนี้ก็ยังเป็นเรื่องของกิจกรรมกีฬาที่จะช่วยเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างเพื่อนนักกีฬาด้วยกันจะเป็นเวทีที่ทุกคนจะมีโอกาสได้แสดงความสามารถตามที่ทุกคนได้มีโอกาสฝึกซ้อมมา

สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือจะต้องแสดงให้เป็นที่ประจักษ์ให้นานาประเทศนั้นได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการแข่งขันเพื่อไปพัฒนาศักยภาพกีฬาของตน และได้มีการพัฒนาให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ในเรื่องนี้รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนและดูแลกิจการกีฬาให้มากยิ่งขึ้น จะเห็นได้ว่าได้มีการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ออกมา ตนคิดว่าในโอกาสต่อไปคงมั่นคงยั่งยืนกว่านี้ ตนเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องพัฒนาไปด้วยดีในอนาคต ตนเชื่อมั่นว่าทุกท่านที่มายืนอยู่ ณ ที่นี้ มาเป็นนักกีฬาท่านต้องผ่านความมุ่งมั่น ความพากเพียร และอุทิศตนกำลังกาย กำลังใจเป็นอย่างมาก ทั้งตัวเอง ผู้ปกครอง และครอบครัว จะต้องมีความอดทน มีระเบียบวินัย ในการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ ตนก็ขอเป็นกำลังใจ ทำให้ดีที่สุดเต็มความสามารถ มีน้ำใจเป็นนักกีฬา เคารพตามกติกาที่วางไว้ ขอให้นึกถึงว่าตัวเองเป็นคนไทยจะต้องรักษาเกียรติยศชื่อเสียงของประเทศไทย ไว้เป็นอันดับแรกทำหน้าที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ และเป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนในโอกาสต่อไป พร้อมถ่ายทอดสิ่งดีๆ ของไทยให้กับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนรับรู้ว่าคนไทยเป็นอย่างไร ทั้งเป็นเพื่อนเป็นมิตรอยู่ร่วมกันอย่างสันติวิธีและยั่งยืน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้รัฐบาลเข้ามาทำหลายอย่าง เรื่องความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน การขยายการค้า การลงทุน และสร้างความเชื่อมั่น และในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ถ้าเราไม่มีความร่วมมือจากต่างประเทศ ไม่มีความเข้าใจซึ่งกันและกันก็จะไปไม่ได้ เพราะตอนนี้เศรษฐกิจทั้งโลกมีปัญหา ทั้งนี้ที่เศรษฐกิจไทยตกต่ำมากในตอนนี้ เกิดจากสองปัจจัย คือเกิดจากความเข้มแข็งยังมีไม่เพียงพอ และปล่อยให้บ้านเมืองอยู่ในสถานะของการทำผิดกฎหมาย ค้าขายแสวงหาผลประโยชน์จากสิ่งไม่ถูกต้อง ซึ่งเงินตรงนี้หายไปเดือนหนึ่งหลายพันล้าน ซึ่งคนเหล่านี้อยู่ระดับล่างทั้งนั้น เป็นกลุ่มอิทธิพลต่างๆ ทั้งหมดเป็นวงจรที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในประเทศไทยมานานแล้ว วันนี้รัฐบาลมีความจำเป็นต้องทำตรงนี้ อาจมีผลกระทบกับพ่อแม่พี่น้องบ้างก็ต้องเข้าใจ แต่ถ้าทุกคนคิดว่าไม่ต้องเคารพกฎหมายอยากให้เป็นอย่างนี้ต่อไปก็เลือกเอา ไปรอรัฐบาลใหม่มา

“ผมพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่อยากข้องแวะใคร เรื่องกีฬา รางวัล ผมก็ทำให้ เพื่อเป็นกำลังใจให้ซึ่งกันและกัน พวกท่านไปชิงเหรียญ ผมเองก็ชิงเหรียญอยู่เหมือนกัน ผมทำให้ประเทศชาติ รางวัลของผมคือให้ประเทศชาติปลอดภัย มั่นคง มั่งคัง ยั่งยืน รางวัลผมมีแค่นั้น จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และทุกคนก็มีบทบาทของตนเอง” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราต้องเพื่อคนรุ่นหลัง อดีตเราแก้ไขไม่ได้ แต่ปัจจุบันต้องเรียนรู้ และเตรียมตัวให้พร้อมที่จะสร้างประวัติศาสตร์และอนาคตให้ไทย ตนคิดอย่างนี้ใครคิดจะคิดอย่างอื่นตนไม่ทราบ คำว่าประชาธิปไตยตนไม่เคยขัดแย้ง แต่สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องได้ประโยชน์เท่าเทียม ไม่เหลี่ยมล้ำ ไม่ใช่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปลาเล็กกินปลาน้อย ไม่เช่นนั้นจะเดือดร้อนไปหมด แต่มนุษย์ทุกคนมีกิเลสอยู่ทุกคนจะหยุดยั้งกิเลสได้แค่ไหน ซึ่งพระพุทธเจ้าได้สอนไว้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เราต้องสร้างระเบียบระบบของบ้านเมืองเราตั้งแต่วันนี้ ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาอย่างที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค้ามนุษย์ ไอเคโอ โรฮิงญา ตำรวจเองก็จะถูกปฏิรูปอยู่ทุกวัน ฉะนั้นถ้าทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง ก็ควรจะทำบทบาทของตัวเองให้เหมาะสม การเป็นข้าราชการไม่ใช่เป็นข้าราชการแล้วมาขูดรีดไถ ดังนั้นทางการจำเป็นต้องมีแรงจูงใจให้เขาอยู่ เช่น บำเหน็จ บำนาญ ตนเป็นนายกฯได้รับเงินเดือน 75,000 ทำทั้งวันทั้งคืน แต่ไม่ได้เรียกร้องให้ขึ้นเงินเดือน เพราะไม่รู้จะไปใช้ที่ไหนเหมือนกัน ไม่ได้ไปไหน ไม่ได้ไปเที่ยวเก็บไว้ให้ลูกหลานใช้ ให้ลูกน้องบ้างนั้นคือความพอเพียงของตน เล่นกีฬานิดหน่อย นอกนั้นไม่เคยไปเที่ยวที่ไหนเลย นั้นเหละคือสิ่งที่ตนเป็นมาหลายปีแล้ว เพราะตนอยากให้สังคมมีความสุข

“ผมอดทนทุกอย่างเพื่อที่จะฟันฝ่าอุปสรรควันนี้ไปให้ได้ ผมไม่อยากกล่าวอ้างถึงใคร ใครทำเสียหาย พอแล้ว ไม่อยากรื้อฟื้นมันไม่เกิดประโยชน์ก้าวข้ามกันไม่พ้นเสียที ฉะนั้นจะเห็นว่า ผมพยายามไม่กล่าวพาดพิงใครอีกแล้ว ถามมาก็ตอบเท่าที่ตอบได้ เพราะผมถือว่าผมก้าวผ่านมาแล้ว วันนี้เราจะเดินไปข้างหน้า และทบทวนสิ่งที่ทำมีปัญหาอุปสรรค์อย่างไร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว