PTTGCคาดไตรมาส2/58พลิกมีกำไร

PTTGCคาดไตรมาส2/58พลิกมีกำไร

"พีทีที โกลบอล เคมิคอล" ประเมินไตรมาส 2/58 พลิกมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน คาดลงทุนปิโตรคอมเพล็กซ์สหรัฐ Q3/58

นายฐิติพงศ์ จุลพรศิริดี ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC คาดว่าในไตรมาส 2/58 บริษัทฯจะมีกำไรจากการสต็อกน้ำมัน จากไตรมาส 1 ที่ขาดทุน 1,133 ล้านบาท หากราคาน้ำมันยังยืนอยู่ในระดับปัจจุบันที่เฉลี่ย 60 เหรียญ/บาร์เรล โดยบริษัทมีต้นทุนในการสต็อกน้ำมันที่กว่า 50 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ คาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันดูไบประเมินว่าในช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสขยับขึ้นไปถึง 64 เหรียญ/บาร์เรล เนื่องจากภาวะอุปสงค์และอุปทานในปัจจุบันอยู่ในลักษณะที่ค่อนข้างสมดุล โดยในช่วงครึ่งปีหลังตามปกติแล้วจะมีการใช้พลังงานมากกว่าครึ่งปีแรก   

ด้านแผนการลงทุนปิโตรคอมเพล็กซ์ในประเทศสหรัฐฯ คาดว่าจะได้ข้อสรุปขั้นสุดท้ายภายในไตรมาส 3/59 โดยมีเงื่อนไขในการเดินหน้าต่อหรือล้มแผนการลงทุน 3 ประการ ได้แก่ วงเงินลงทุนจะต้องไม่มากจนเกินไป ซึ่งเบื้องต้นตั้งไว้ที่ 5.7 พันล้านเหรียญ โดยจากเท่าที่ประเมินขณะนี้มีกรอบ +/- ถึง 30% ซึ่งบริษัทฯต้องการให้มีกรอบ +/- เพียง 10% ขณะที่ผลประเมินราคาวัตถุดิบในอนาคตจะต้องไม่สูงจนเกินไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาเกี่ยวกับเพดานราคา และพาร์ทเนอร์จะต้องเป็นผู้ที่ช่วยกระจายสินค้าหรือซื้อสินค้าในระยะยาวได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาอยู่ 6 ราย โดยบริษัทฯมีนโยบายถือหุ้นใหญ่มากกว่า 50%

ส่วนโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ในประเทศอินโดนีเซีย เลื่อนสรุปแผนไปเป็นไตรมาส 2/60 เนื่องจากอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของผู้ร่วมลงทุน รวมถึงโครงสร้างของโครงการ จากเดิมที่บริษัทฯจะทำเพียงแค่ในส่วนของโรงปิโตรเคมีเท่านั้น แต่ขณะนี้ได้มีการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการร่วมลงทุนในโรงกลั่นด้วย ซึ่งต้องมีการหารือกับพาร์ทเนอร์อีก 2 ราย ได้แก่ เปอร์ตามิน่าของอินโดนีเซีย และซาอุดิ อารามโก ซึ่งหากในขั้นตอนสุดท้ายผลการเจรจาไม่คุ้มค่ากับการลงทุนอาจจะมีการยกเลิก แต่หากลุล่วงไปได้ด้วยดีคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2565

สำหรับเงินลงทุนในโครงการดังกล่าวข้างต้นได้รวมอยู่ในงบลงทุน 5 ปี (58-62) ของบริษัทฯเรียบร้อยแล้ว ซึ่งบริษัทฯตั้งไว้ที่ 4.5 พันล้านเหรียญ แบ่งเป็นกระแสเงินสดหมุนเวียน 2.5 พันล้านเหรียญ และเงินกู้อีก 2 พันล้านเหรียญ

นายฐิติพงศ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ปรับลดคาดการณ์กำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) ในโครงการขยายคอขวดปีนี้เหลือ 223 ล้านเหรียญ จากเดิม 303 ล้านเหรียญ เนื่องจากราคาน้ำมันในไตรมาส 1/58 ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งกระทบต่อราคาผลิตภัณฑ์ให้ปรับลดลงด้วย อย่างไรก็ตามเป้าหมายดังกล่าวมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้อีกหากแนวโน้มราคาน้ำมันยังอยู่ทิศทางขาขึ้น

ทั้งนี้ในปี 2557 ที่ผ่านมาบริษัทฯมี EBITDA ในโครงการดังกล่าว 211 ล้านเหรียญ