กทม.ลงนามสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ควบคุมยาสูบฉบับใหม่

กทม.ลงนามสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ควบคุมยาสูบฉบับใหม่

กทม.ลงนามสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ควบคุมยาสูบฉบับใหม่ จี้เขียนกม.ห้ามขายเด็กต่ำกว่า 20 ปี-ตัดวงจรเข้าถึงเยาวชน

ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) นายภูเมธ กมลศุภกิตต์ ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนลดปัจจัยเสี่ยงกทม. พร้อมผู้นำชุมชนกว่า 30 คน เข้าพบนางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าฯกทม. เพื่อยื่นรายชื่อจำนวน 1 แสนชื่อ เพื่อสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ ถึงรัฐบาลผ่านกทม. พร้อมเรียกร้องให้กทม.มีแผนควบคุมการเข้าถึงบุหรี่ และอบายมุขในพื้นที่รอบโรงเรียน โดยนางผุสดีได้ร่วมลงนามสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวในป้ายลงนามขนาดใหญ่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการสนับสนุนกฎหมายเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนจากพิษภัยบุหรี่ในครั้งนี้ 

​นายภูเมธ กล่าวว่า เครือข่ายชุมชนลดปัจจัยเสี่ยง กทม. เกิดจากการรวมตัวกันของชุมชนพื้นที่กทม.กว่าร้อยชุมชน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาปัจจัยเสี่ยงทั้ง บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พนัน ยาเสพติด ซึ่งบุหรี่เป็นปัญหาสำคัญที่กระทบต่อเด็กและเยาวชนในชุมชน ขณะนี้มีเด็กสูบบุหรี่ที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ ขณะที่นักสูบหน้าใหม่ในชุมชนจะเริ่มต้นสูบจากการยุยงของเพื่อนหรือพี่ๆในกลุ่ม นิยมซื้อบุหรี่แบบแบ่งขายเป็นมวน ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายห้าม และการขายให้เด็กยังพบเห็นได้ทั่วไป โดยเฉพาะร้านค้าที่ตั้งอยู่รอบโรงเรียน ซึ่งที่ผ่านมากฎหมายควบคุมบุหรี่ฉบับเดิมมีการบังคับใช้มา 20 ปี ทำให้ไม่เท่าทันบริษัทบุหรี่ที่ได้พัฒนาเทคนิคการตลาดใหม่ๆ รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ยาสูบชนิดใหม่ออกสู่ตลาด อาทิ บารากู่ บุหรี่ไฟฟ้า ขณะที่งานวิจัยระบุว่า​เยาวชน 70 เปอร์เซ็นต์ ซื้อบุหรี่แบบแบ่งขาย และกฎหมายเดิมกำหนดห้ามขายผู้ที่อายุต่ำกว่า18 ปี ทั้งที่ควรเป็น 20 ปี 

นายภูเมธ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้การป้องกันแก้ไขปัญหาบุหรี่ ยังขาดเจ้าภาพในระดับจังหวัด ต่างจาก พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่กำหนดให้มี คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับจังหวัด ซึ่งทำให้การทำงานในจังหวัดรวมถึงกรุงเทพฯ มีรูปธรรมมากขึ้น ทั้งนี้ เครือข่ายฯจึงขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอต่อ กทม. 1.ขอให้กำหนดมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการขายบุหรี่ให้เด็ก อายุต่ำกว่า 18 ปี โดยเฉพาะในพื้นที่รอบโรงเรียน ให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบ และทำงานร่วมกัน 2.ขอมอบรายชื่อชาวกรุงเทพฯ 1 แสนรายชื่อเพื่อให้กทม.นำเสนอต่อรัฐบาลในการสนับสนุน ร่างพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ เพื่อปกป้องเด็ก เยาวชน และสังคมไทย 3.ขอให้กทม.ซึ่งกำกับดูแลสำนักอนามัยให้การสนับสนุนพ.ร.บ.ฉบับนี้ ด้วยการเปิดให้ประชาชนสามารถร่วมลงชื่อสนับสนุนกฎหมายที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทั่วกรุงเทพฯ 

ด้ านนายนรินทร์ แป้นประเสริฐ แกนนำเครือข่ายชุมชนลดปัจจัยเสี่ยง ประธานชุมชนวัดโพธิ์เรียง เขตบางกอกน้อย กล่าวว่า การที่สมาคมผู้ค้ายาสูบไทย ออกมาให้ข่าวว่าคณะรัฐมนตรีได้ตีกลับ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ เป็นครั้งที่ 2 นั้น เป็นการให้ข้อมูลที่บิดเบือน เนื่องจากเครือข่ายฯได้สอบถามไปยังทำเนียบรัฐบาลแล้วไม่ปรากฎว่ามีการตีกลับร่างกฎหมายฉบับนี้ตามที่สมาคมฯได้ให้ข่าว พฤติกรรมนี้ถือเป็นเรื่องที่ภาคประชาชนรับไม่ได้ เป็นการเต้าข่าวขึ้นมาหวังเพียงให้กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้รับการพิจารณา นอกจากนี้ที่สมาคมฯออกมาอ้างว่า การขายบุหรี่แบบแบ่งขายไม่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน จึงเป็นความเห็นแก่ตัว เพราะจากประสบการณ์การป้องกันแก้ไขปัญหาบุหรี่กับเด็กและเยาวชนในชุมชน เป็นที่ชัดเจนว่าเด็กจะเริ่มสูบตามเพื่อนหรือพี่ๆ ในกลุ่มและส่วนใหญ่เป็นการซื้อแบบแบ่งขายเป็นมวนทั้งสิ้น

"ข้อมูลที่เครือข่ายฯได้สำรวจเด็กและเยาวชนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกาญจนาภิเษก เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมาจำนวน 75 คน พบว่าร้อยละ 85 เคยสูบบุหรี่ เริ่มสูบในอายุน้อยที่สุดคือ 9 ขวบ เกือบทั้งหมดซื้อในร้านค้าใกล้โรงเรียนใกล้ชุมชนในแบบแบ่งขาย ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 90.23 และกว่าร้อยละ 89.35 เชื่อว่าบุหรี่แบบแบ่งขายมีผลต่อการสูบของเด็กและเยาวชน ในขณะที่มีงานวิจัยอีกจำนวนมากระบุตรงกันในเรื่องนี้ จึงอยากขอร้องให้สมาคมผู้ค้ายาสูบไทยหยุดบิดเบือนข้อเท็จจริง และร่วมกันปกป้องเด็กและเยาวชนจากภัยยาสูบ เสียสละผลประโยชน์ของตัวเองบ้าง เพื่ออนาคตของลูกหลาน” นายนรินทร์กล่าว