'ประยุทธ์'หารือนายกฯฟิจิสานการค้า การลงทุน

'ประยุทธ์'หารือนายกฯฟิจิสานการค้า การลงทุน

"พล.อ.ประยุทธ์"หารือนายกฯฟิจิ สานความร่วมมือการค้า การลงทุน – พลังงานทดแทน พร้อมทำความตกลงเว้นการเก็บภาษีซับซ้อน

ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หารือข้อราชการกับนายโจเซเอีย โวเรเก ไบนีมารามานายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐฟิจิ โดยพล.อ.ประยุทธ์ แถลงภายหลังการหารือ ว่า ตนได้พบหารือข้อราชการกับท่านนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐฟิจิ พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประมงและป่าไม้ของฟิจิ และคณะ ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนประเทศไทยเพื่อการเจรจาทำงาน หรือ Working visit การเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และส่งเสริมความร่วมมือในหลายสาขาระหว่างทั้งสองประเทศโดยไทยและฟิจิมีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกันมากว่า 43 ปี ไทยเห็นว่าฟิจิเป็นมิตรประเทศที่สำคัญในประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก ซึ่งไทยมุ่งส่งเสริมความสัมพันธ์กับประเทศเหล่านี้ โดยไทยได้เข้าเป็นประเทศคู่เจรจาของเวทีความร่วมมือประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก หรือ พีไอเอฟ ตั้งแต่ปีพ.ศ.2547 และส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมประเทศคู่เจรจาเป็นประจำทุกปี

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ฟิจิ เป็นประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกที่มีความสำคัญในลำดับต้นๆ กับไทย ในด้านเศรษฐกิจการค้า ฟิจิเป็นแหล่งทรัพยากร ได้แก่ ประมง ป่าไม้ และแร่ธาตุ ซึ่งสามารถเป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมของไทย นอกจากนี้ ฟิจิเป็นตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีศักยภาพในการเติบโต มีความต้องการสิ่งก่อสร้างและระบบสาธารณูปโภคเพื่อรองรับการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของฟิจิ ซึ่งเป็นสาขาที่ไทยมีศักยภาพและมีความเชี่ยวชาญ 

 ไทยมีความตั้งใจจะส่งเสริมให้การค้าสองฝ่ายมีมูลค่าสูงขึ้นอีกเพราะฟิจิเป็นตลาดที่นับว่าใหญ่พอสมควรในบรรดาประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก หรืออันดับที่สอง สินค้าส่งออกของไทยไปยังฟิจิ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก น้ำตาลทราย อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว สินค้านำเข้าจากฟิจิ ได้แก่ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป เนื้อสัตว์สำหรับบริโภค โดยในปีพ.ศ.2557 ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลได้ดุลการค้า 49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเรายังมีศักยภาพในการขยายความร่วมมือเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันได้อีก 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนและนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐฟิจิ ได้หารือเกี่ยวกับ 1. โอกาสในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันในทุกด้านทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง การค้า และการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนวทางการดำเนินความร่วมมือระหว่างกันในด้านวิชาการ และความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ในสาขาอ้อย น้ำตาล น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ประมง พลังงานทดแทน การท่องเที่ยว 2.โอกาสในด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน 3. การจัดทำความตกลงระหว่างกัน อาทิ ความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศ ความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน รวมถึงความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างกัน เพื่อส่งเสริมการไปมาหาสู่ระหว่างกัน 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากความสัมพันธ์ทวิภาคี ไทยกับฟิจิยังได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดในเวทีระหว่างประเทศตลอดมา ฟิจิเป็นประเทศที่มีบทบาทนำในภูมิภาคหมู่เกาะแปซิฟิกในเวทีระหว่างประเทศ ตนจึงได้แจ้งย้ำให้นายกรัฐมนตรีฟิจิทราบด้วยว่า ในวาระปีพ.ศ. 2560-61 ประเทศไทยได้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประเภทไม่ถาวร และหวังอย่างยิ่งว่าจะได้รับความสนับสนุนจากฟิจิด้วยดี นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงการขอเสียง แลกเสียงระหว่างกันในเวทีระหว่างประเทศต่างๆ ได้แก่ การสมัครตำแหน่งผู้พิพากษาศาลกฎหมายระหว่างประเทศของไทย สมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และประธานสมัชชาสหประชาชาติของฟิจิ และตนเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า การมาเยือนประเทศไทยของท่านนายกรัฐมนตรีจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐฟิจิพัฒนาเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปอีก