SAT - ซื้อ

SAT - ซื้อ

แนวโน้มฟื้นตัวโดดเด่นกว่ากลุ่ม

โดดเด่นสุดในหุ้นชิ้นส่วนยานยนต์

เราแนะนำ “ซื้อ” SAT ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 58 ที่ 22 บาท โดยใช้วิธี P/E อิงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 12 เท่า ซึ่ง SAT มีความโดดเด่นกว่าผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายอื่นในกลุ่ม ดังนี้ 1) เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์หลักเพลาข้าง (Axle Shaft) ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 80% ถือเป็นรายใหญ่สุดในเอเชีย 2) SAT อยู่ในอุตสาหกรรมที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และบริษัทยังมีการกระจายความเสี่ยงทางรายได้ไปยังกลุ่มลูกค้าเครื่องจักรกลการเกษตรที่คาดการผลิตเติบโตดีกว่ากลุ่มยานยนต์ในช่วง 3 ปีข้างหน้า 3) แนวโน้มประสิทธิภาพในการทำกำไรที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยประเมินอัตรากำไรสุทธิในปี 58 ปรับเพิ่มขึ้นราว 1% จากผลของการประหยัดจากขนาด และ 4) ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 10 เท่า ซึ่งถือว่ายังถูกเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มปัจจุบันที่ 12.7 เท่า นอกจากนี้คาด SAT ยังให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 4% จากราคาปัจจุบัน

อุตสาหกรรมยานยนต์ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว

เราคาดอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว จากปีก่อนที่อุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว กอปรกับผลจากมาตรการรถคันแรกในช่วงปี 55 - 56 ซึ่งดึงอุปสงค์การบริโภคล่วงหน้าไป ส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์ปี 57 ปรับลดลงถึง 23% YoY ในขณะที่ปี 58 คาดว่ายอดผลิต จะฟื้นตัวราว 6%YoY เป็น 2 ล้านคัน ซึ่งเราประเมินอนุรักษ์นิยมต่ำกว่าที่สภาอุตสาหกรรมคาดการณ์ที่ 2.15 ล้านคัน เนื่องจากรวมความเสี่ยงจากตลาดในประเทศที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์

พักฐานสั้นๆ คาดปี 58 กำไรพลิกเติบโต 20%

แนวโน้มผลประกอบการใน 2Q58 คาดชะลอตัว QoQ นอกจากวันหยุดยาวที่ติดต่อกันหลายวัน ยังเป็นช่วงเปลี่ยนโมเดลใหม่ของลูกค้ารายใหญ่รายหนึงสำหรับโมเดลรถกระบะ ซึ่งจะกลับมาผลิตอีกครั้งในช่วง 2H58 ซึ่งภาพรวมทั้งปีเราคาดกำไรของ SAT จะยังคงพลิกกลับมาเติบโต 20%YoY (เทียบปีก่อนที่ติดลบ 37%) โดยออร์เดอร์จากลูกค้ากลุ่มยานยนต์เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม และในช่วงปลาย 3Q58 คาดจะรับรู้รายได้จากออร์เดอร์ใหม่ งานชิ้นส่วนขึ้นรูป (General Forging) และ เพลาข้าง (Axle Shaft) สำหรับชิ้นส่วนรถบรรทุก (ขนาดยอดขายราว 500 ล้านบาท/ปี) คาดรับรู้รายได้ปีนี้ราว 150 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้รับออร์เดอร์เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากลูกค้าคูโบต้า ที่มีแผนใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกในภูมิภาค โดยทางคูโบต้ามีแผนเพิ่มกำลังการผลิตในช่วง 3 ปีข้างหน้าจากปัจจุบันที่ 6.5 หมื่นคัน เป็น 9 หมื่นคัน ภายในปี 60 (CAGR 11% ต่อปี) โดยมีโมเดลใหม่ราว 5 โมเดล ซึ่งทาง SAT ได้รับออร์เดอร์ทุกรุ่น