"ยูเอ็น" ชี้ช่วยชีวิตผู้อพยพในทะเลสำคัญที่สุด

"ยูเอ็น" ชี้ช่วยชีวิตผู้อพยพในทะเลสำคัญที่สุด

เลขาฯยูเอ็นระบุ การช่วยชีวิตผู้อพยพในทะเลสำคัญที่สุด ขณะที่อินโดฯเผย ผู้อพยพทางเรือจำนวนมากไม่ใช่ชาวโรฮิงญา แต่เป็นชาวบังกลาเทศแฝงตัวมา

เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น นายบัน คี มูน กล่าวระหว่างเยือนกรุงฮานอยของเวียดนามในวันนี้ (23 พ.ค.) ว่า การช่วยชีวิตผู้อพยพที่ติดค้างอยู่กลางทะเลในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ควรเป็นภารกิจสำคัญอันดับแรก และที่สำคัญไม่ควรจะผลักไสพวกเขาไปสู่สถานการณ์หรือสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย เขาหวังว่าบรรดาประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะสามารถจัดการปัญหาได้ถึงต้นตอของปัญหาในระหว่างการประชุมที่จะมีขึ้นที่ไทยในปลายเดือนนี้

คำกล่าวของเลขาธิการยูเอ็นมีขึ้นในช่วงที่ภูมิภาคดังกล่าวกำลังหาทางแก้ไขปัญหาผู้อพยพทางเรือที่ต้องการหนีจากความยากจนและการถูกข่มเหง ขณะที่เมียนมาร์ก็กำลังเผชิญกับกระแสกดดันอย่างหนักจากนานาชาติให้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อชาวมุสลิมโรฮิงญา 1.3 ล้านคนในประเทศ

ขณะที่หนังสือพิมพ์ดิ ออสเตรเลียน ฉบับวันเสาร์ ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของรัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย นางจูลี บิช็อป ว่า เธอได้รับแจ้งจากรัฐบาลอินโดนีเซีย ซึ่งสันนิษฐานว่า ผู้อพยพทางเรือในทะเลอันดามันที่เป็นชาวโรฮิงญามีเพียง 30-40% เท่านั้น ส่วนที่เหลือคาดว่าเป็นชาวบังกลาเทศที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อหลบหนีเข้าเมือง หลังจากมีการพิสูจน์สัญชาติผู้อพยพบนเรือลำหนึ่งซึ่งมีอยู่ 600 คน และพบว่า 400 คนเป็นชาวบังกลาเทศ