SGP

SGP

พร้อมสำหรับการฟื้นตัว

ผลประกอบการไตรมาสที่ 1/58: ผลการดำเนินงานดีจากการที่ราคา LPG มีเสถียรภาพ  : เราเชื่อว่าผลการดำเนินงานของ SGP จะฟื้นตัวในปีนี้ โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการที่ผลขาดทุนจากสต็อกลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และการเติบโตของปริมาณยอดขายในต่างประเทศ กำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1/58 อยู่ที่ 0.4 ล้านบาทจากที่ขาดทุนสุทธิ 170 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1/57 ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของเราที่ 30 ล้านบาท เนื่องจากมีรายการพิเศษซึ่งทำให้ค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้น 60 ล้านบาท YoY โดยผลประกอบการที่ดีขึ้น YoY เป็นผลมาจากการที่บันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 30 ล้านบาท และมีกำไรพิเศษจากการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ในไตรมาสที่ 1/57 ซึ่งทำให้ SG&A ลดลง 30 ล้านบาท นอกจากนี้ รายได้อื่นก็ลดลงเหลือ 71 ล้านบาท จาก 109 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1/57 เนื่องจากบริษัทมีการบันทึกกำไร 33.5 ล้านบาทจากการขายที่ดินในจังหวัดสงขลา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสถานีบริการของ Unique Gas and Petrochemicals ซึ่ง SGP ซื้อกิจการมาในปี 2547 ทั้งหมดนี้ส่งผลให้กำไรสุทธิต่ำกว่าประมาณการของเรา 

ปริมาณยอดขายในต่างประเทศโต 17% : ปริมาณยอดขายของ SGP ในไตรมาสที่ 1/58 อยู่ที่ 594,000 ตัน เพิ่มขึ้น 17% YoY จากธุรกิจการค้าในต่างประเทศ และยอดขายในจีนและเวียดนาม โดย SGP มียอดขายที่จีน 151,000 ตัน ที่เวียดนาม 44 ตัน ที่มาเลเซียและสิงคโปร์ 28 ตันและที่ประเทศอื่นๆ 102,000 ตัน ในขณะที่ยอดขายในประเทศอยู่ที่ 269,000 ตัน ซึ่งลดลงจาก 284,000 ตันในไตรมาสที่ 1/57 การราคาขายปลีก LPG ในประเทศที่ขยับสูงขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ปริมาณยอดขายในไตรมาสนี้คิดเป็นสัดส่วน 23% ของเป้ายอดขายปีนี้ของ SGP ที่ 2.5 ล้านตัน (จาก 2.4 ล้านตันในปี 2557) ทั้งนี้ยอดขายในประเทศของ SGP ในปีที่แล้วอยู่ที่ 1.14 ล้านตันและบริษัทตั้งเป้าปีนี้ไว้ที่ 1.2 ล้านตัน

มีผลขาดทุนจากสต็อกเล็กน้อยในเดือนเมษายน สถานการณ์ดีกว่าไตรมาสก่อนมาก :  SGP ไม่ได้เป็นเผยผลขาดทุนจากสต็อกในไตรมาสที่ 1/58 แต่เราเชื่อว่านอกจากรายการที่ได้กล่าวถึงมาแล้วข้างต้น ผลประกอบการในไตรมาสแรกยังถูกฉุดจากผลขาดทุนจากสต็อกเนื่องจากราคา LPG ที่ปรับลดลง US$112/ton MoM ในช่วงเดือนมกราคมเหลือ US$448/ton ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นเป็น US$465/ton ในเดือนกุมภาพันธ์ และ US$480/ton ในเดือนมีนาคม แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลขาดทุนจากสต็อกในเดือนมกราคมได้ สำหรับในไตรมาสที่ 2/58 ราคา LPG ได้ปรับลดลง US$15/ton MoM ในเดือนเมษายน แต่ก็ขยับเพิ่มขึ้น US$5/ton ในเดือนพฤษภาคม เรามองว่า SGP มี downside ไม่มากนักจากผลขาดทุนจากสต็อก ในขณะที่ทาง SGP คาดว่าปริมาณยอดขายจะยังคงแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 2/58 ดังนั้นเราจึงคาดว่าจากนี้ไปผลประกอบการจะดีขึ้นเรื่อยๆ

Recommendation and valuation : เราเชื่อว่าผลการดำเนินงานของ SGP จะฟื้นตัวได้ในปีนี้ เนื่องจากราคา LPG เฉลี่ย YTD อยู่ที่ US$466/ton ซึ่งสูงกว่าราคาที่ทำสัญญาไว้ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม ในฐานะที่เป็นผู้ค้าน้ำมันรายหนึ่ง SGP ได้รับค่าการตลาดที่คงที่สำหรับธุรกิจในประเทศ ซึ่งช่วยสร้างกำไรให้อย่างงามถึง 943 ล้านบาทในปี 2557 (ผลขาดทุนสุทธิในปีที่แล้วเป็นผลมาจากธุรกิจในต่างประเทศ) เราคำนวณมูลค่าหุ้น SGP โดยใช้วิธี DCF (discount rate 9.2%, terminal growth 3%) เพื่อสะท้อนถึงกระแสเงินสดที่แน่นอนจากธุรกิจในประเทศ และปริมาณยอดขายที่เติบโตในตลาดต่างประเทศ โดยเราประเมินมูลค่าเหมาะสมอยู่ที่ 13.0 บาท คิดเป็น P/E ปี 2558 ที่ 10.9x และปี 2559 ที่ 10.6x