ทดสอบแนวต้าน 1530

ทดสอบแนวต้าน 1530

เริ่มสะสมหุ้นเมื่อดัชนีย่อลงแรง ทยอยขายเมื่อมีกำไร

UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ทดสอบแนวต้าน 1530

ตลาดไทยเมื่อวานนี้ขยับขึ้นแรงผ่านแนวต้านที่ 1520 ได้ วันนี้ตลาดไทยมีแนวโน้มผันผวนเชิงบวกเพื่อทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1530 เนื่องจากมีแรงหนุนสำคัญคือ ข่าวที่ ECB จะเพิ่มปริมาณการซื้อพันธบัตรและตัวเลขการเริ่มก่อสร้างบ้านของสหรัฐออกมาสูงสุดในรอบ 7 ปี บ่งบอกถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม วันนี้ตลาดไทยจะยังปรับขึ้นไม่มาก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ขยับลงเมื่อคืนนี้น่าจะส่งผลกดดันกลุ่มพลังงานอยู่บ้าง แนะนำเล่นสั้นและติดตามการแถลงรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐานและผลการประชุมเฟดประจำเดือนเมษายนที่จะประกาศในวันนี้
แนวรับ/แนวต้าน : 1500/1530
กลยุทธ์ : เริ่มสะสมหุ้นเมื่อดัชนีย่อลงแรง ทยอยขายเมื่อมีกำไร เน้นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง, หุ้นปันผลสูง และหุ้นที่มีแนวโน้มผลกำไรเติบโตดี
สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
นักลงทุนระยะสั้น : IRPC(6.50), TASCO(17)
นักลงทุนระยะยาว : DEMCO(16), SAMART(45)


จับข่าวมาเก็งกำไร

TOP : แม้ TOP จะซื้อขายที่ 9.8 เท่า 2558 PE เทียบกับกลุ่มน้ำมันและก๊าซของไทยที่ 12 เท่า PE ความไม่แน่นอนในอนาคตของทั้งธุรกิจการกลั่นและอะโรเมติกส์ และการปรับขึ้น 23% ของราคากหุ้นทำให้เราคงคำแนะนำ ขาย หุ้นนี้ ทั้งนี้ภายใต้กลุ่มน้ำมันและก๊าซ เราชอบ PTTGC มากกว่าจากราคาหุ้นที่ถูกราว 7-8 เท่า PE ราคาพื้นฐานของ TOP อยู่ที่ 43 บาท (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน

ปัจจัยภายในประเทศ

- ธปท.เรียกร้องธนาคารพาณิชย์หั่นดอกเบี้ย หวังส่งผ่านนโยบายการเงิน จาก กนง. ลดดอกเบี้ย พร้อมส่งหนังสือเวียนให้ส่งรายงานความช่วยเหลือเอสเอ็มอี ด้าน "โฆสิต" ยันไม่มีเหตุต้องรีบ จี้ทุกฝ่ายช่วยดูแลไม่ให้เกิดพฤติกรรมเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยง ขณะสมาคมแบงก์ ย้ำลดดอกเบี้ยต้องเป็นไปตามกลไกตลาด-ใช้เวลา ทางด้าน "คลัง" เผยไม่เกินปลายเดือนพฤษภาคมเสนอ 'ปรีดิยาธร-สมหมาย' พิจารณาร่าง พ.ร.บ.มอบอำนาจกู้เงินล้างหนี้รัฐกว่า 7 แสนล้านบาท เร่งส่งต่อ ครม.-สนช.เห็นชอบ ด้านยอดหนี้สาธารณะเดือนมีนาคมเพิ่มอีกหมื่นล้านบาท ส่วนหอการค้าเผยสมาชิกภูมิภาค รายงานเริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นชัด ใน 4 กลุ่มธุรกิจ "วัสดุก่อสร้าง-ค้าปลีก-ท่องเที่ยว-ตู้คอนเทนเนอร์" ประเมินยุทธศาสตร์ในการประชุมใหญ่ 23-24 พ.ค.นี้ ขณะ ธปท.ยอมรับในไตรมาสแรกสัญญาณฟื้นตัวแผ่ว เตรียมชง กนง.พิจารณาการประชุมครั้งหน้า

ปัจจัยต่างประเทศ

+ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,312.39 จุด เพิ่มขึ้น 13.51 จุด หรือ +0.07%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) โดยดาวโจนส์ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนเม.ย.พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเพิ่มวงเงินการซื้อพันธบัตรในช่วงเดือนพ.ค.และมิ.ย.

+ สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือน มิ.ย.ร่วงลง 2.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.26 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกในปีนี้จะมีปริมาณสูงกว่าอุปสงค์ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์