'บอร์ดสลาก'หั่นรายได้ ขายต้นทุนใบละ70บ.

'บอร์ดสลาก'หั่นรายได้ ขายต้นทุนใบละ70บ.

บอร์ดสลากประชุมนัดแรก เห็นชอบปรับโครงสร้างราคาใหม่ ยอมหั่นรายได้ส่งเข้ารัฐปีละ 1.5-2 พันล้านบาท เพิ่มกำไรผู้ค้าใบละ 9.60 บาท

 เพื่อให้ขายปลีกได้ในราคา 80 บาท เริ่มงวด 16 มิ.ย. พร้อมยกเลิกรางวัลแจ็คพอต ไปเพิ่มรางวัลที่ 1 เป็น 6 ล้านบาท คาดเริ่มงวด 1 ส.ค. ขู่หากขายเกินราคา เอาผิดถึงผู้ได้รับโควตา พร้อมนำกฎหมายภาษีมาตรวจสอบ


คณะกรรมการ (บอร์ด) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้นัดประชุมครั้งแรก วานนี้ (19 พ.ค.) หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เข้ามาแก้ปัญหาสลากแพง ด้วยการแต่งแต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่ขึ้นมาแทนชุดเดิมโดยมีพลตรี อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็นประธาน


พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานบอร์ดสลาก เปิดเผยผลการประชุมว่า ในการประชุมบอร์ดสลากนัดแรกที่ประชุมหารือถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นห่วงราคาสลากที่แพง โดยได้มีการนำประกาศในมาตรา 44 มาพิจารณาเพื่อออกเป็นแนวทางปฏิบัติให้ราคาสลากอยู่ที่ 80 บาท


โดยที่ประชุมมีมติให้ปรับโครงสร้างราคาสลากใหม่ โดยกำหนด 60% เป็นเงินรางวัล และ 20% เป็นเงินนำส่งรัฐจากเดิม 28% อีก 20% แบ่งย่อยเป็น ค่าบริหารจัดการ (ของสำนักงานสลากฯ) 3% นำไปตั้งเป็นกองทุนเงินกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อพัฒนาสังคม 2% เป็นส่วนลดให้มูลนิธิ สมาคม ผู้ค้านิติบุคคล และ12% เป็นส่วนลดให้กับผู้ค้ารายย่อย จากเดิมผู้ค้ารายย่อยจะได้รับส่วนลดเพียง 7%
เชื่อสลาก80บาทเห็นผล16มิ.ย.


การปรับโครงสร้างราคาสลากทำให้ผู้ค้ารายย่อยได้ส่วนลดหรือกำไรจากการขายสลากใบละ 9.60 บาท จากเดิมได้เพียง 5.60 บาท ส่วนกลุ่มผู้ค้าที่เป็นนิติบุคคล มูลนิธิ สมาคม จะได้รับส่วนแบ่งไป 2% หรือใบละ 1.60 บาท


ดังนั้นส่วนที่เพิ่มให้นี้น่าจะเพียงพอที่จะทำให้การขายสลากอยู่ที่ 80 บาท และสามารถเริ่มในงวดออกรางวัลที่ 16 มิ.ย.นี้ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีทันที


“โครงสร้างใหม่ จะทำให้ต้นทุนขายสลากถูกลง เพื่อให้ผู้ค้ามีกำไรมากขึ้น ซึ่งต้นทุนอยู่ที่ 70.40 บาท หรือได้รับส่วนลดเพิ่มขึ้นเป็นใบละ 9.60 บาท ซึ่งเป็นความตั้งใจของนายกรัฐมนตรี ที่อยากลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ แม้จะทำให้รัฐเสียรายได้ประมาณปีละ 1.5 -2 พันล้านบาท เพื่อนำมาเป็นส่วนลดให้ หากยังไม่ปรับลดราคาขายลงยังคงเห็นแก่ตัวอยู่ มันเกินไป ควรหยุดได้แล้ว ไม่เช่นนั้นเวลาโดนกฎหมาย โดนคำสั่ง คสช. ลงโทษ ก็อย่ามาโวยวาย พร้อมกันนี้ขอร้องประชาชน อย่าซื้อหากเห็นว่าขายเกินราคา 80 บาท เรารู้แล้วว่าต้นทุนอยู่ที่เท่าไหร่ ต้องรักษาผลประโยชน์ของตัวเองด้วย เพราะถ้าเราไม่ซื้อ คนที่เสียหายคือคนขาย เพราะรัฐไม่รับซื้อคืนอยู่แล้ว” พล.ต.อภิรัชต์ กล่าว


พล.ต.อภิรัชต์ ยอมรับว่า การแก้ปัญหาราคาสลากต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็ต้อง 1-2 เดือน เพื่อมาดูว่าแนวทางที่ทำไปได้ผลอย่างไร ซึ่งส่วนตัวทำงานเร็วและมีแผนหนึ่ง สอง สามรองรับอยู่แล้ว ไม่ใช่พอเห็นว่าในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ยังมีการขายเกินราคาอยู่แล้วบอกว่าไม่สำเร็จ ไม่ใช่ ต้องให้โอกาสกันด้วย


“เชื่อว่าด้วยมาตรการที่ออกมาครั้งนี้ การถอยราคาของรัฐ ยอมเสียเงินที่จะเข้ารัฐปีละ 2 พันล้านบาทก็น่าจะพอเพียง”พล.ต.อภิรัชต์ กล่าว


เพิ่มบทลงโทษผู้ค้ารายย่อย
พล.ต.อ. อภิรัชต์ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีการแก้ไขสัญญากับผู้ค้ารายย่อยที่จะหมดอายุโควตาในเดือน มิ.ย.จำนวน 48 ล้านฉบับใหม่ โดยเพิ่มบทลงโทษสำหรับผู้ค้าตามประกาศมาตรา 44 คือถ้าขายเกินราคามีโทษทั้งปรับ 1 หมื่นบาท และจำคุก 1 เดือนรวมทั้งถูกยึดโควตาคืน ซึ่งตรงนี้ได้มีการตั้งชุดเฉพาะกิจที่มีทั้งตำรวจ ทหาร ดีเอสไอ ตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม จำนวน 10 ชุดออกตรวจสอบการขายสลากทั่วประเทศ


“ถ้าตรวจสลากใบใดขายเกินราคาจะมีการตรวจสอบย้อนกลับไปยังต้นตอว่าเป็นของผู้ใด นอกจากจะถูกลงโทษทั้งทางอาญาแล้ว ถูกยึดโควตาคืนแล้วก็จะใช้กฎหมายภาษีมาดำเนินการกับกลุ่มคนที่ขายเกินราคาด้วย” พล.ต.อภิรัชต์ กล่าว


ไม่ห้ามรวมชุดขาย
ส่วนในเรื่องของการรวมชุดนั้น ที่ประชุมในครั้งนี้ได้มีมติให้ยกเลิกรางวัลแจ็กพอตของสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ให้เพิ่ม 20 ล้านบาท และ30 ล้านบาท โดยให้ยกเลิกรางวัลดังกล่าวแล้วนำเงินรางวัลมากระจายให้กับรางวัลที่ 1 แทน ซึ่งจะทำให้รางวัลที่ 1 อยู่ที่ใบละ 6 ล้านบาท จากเดิมใบละ 4 ล้านบาท เหมือนกับรางวัลของสลากการกุศล โดยคาดว่าจะเริ่มในงวดวันที่ 1 ส.ค. เพราะรอการปรับข้อความบนสลากที่จะขายเพื่อให้ผู้ซื้อได้รับรู้
“การยกเลิกรางวัลแจ็คพอตน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การรวมชุดหมดไป เพราะจะไม่เกิดแรงจูงใจในการซื้อ แต่ถ้าถามว่าจะรวมชุดได้ไหม ก็ไม่ห้าม แต่ราคาขายต่อใบต้องไม่เกิน 80 บาท ถ้าเกินราคาต้องถูกลงโทษตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้” พล.ต.อภิรัชต์ กล่าว


คงกองทุนเพื่อวิจัย-พัฒนา
สำหรับกรณีกองทุนสลากฯ นั้นที่ประชุมหารือถึงแนวทางการดำเนินการของกองทุน เบื้องต้นจะใช้เพื่อการวิจัย และพัฒนา เป็นหลักคงจะยังไม่ถึงเวลานำมาตั้งเป็นกองทุนซื้อคืนสลากไม่สวยหรือเลขที่ขายไม่ออก เพราะในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมานั้นไม่เคยดำเนินการในเรื่องนี้


เขายืนยันว่าการใช้เงินกองทุนจะต้องมีความโปร่งใส มีคณะกรรมการเข้ามาดูแล ซึ่งเงินที่จะนำมาใช้ดูเรื่องเกี่ยวกับการวิจัยเพื่อลดผลกระทบด้านการพนัน และเป็นการให้ความรู้เด็กและเยาวชน เกี่ยวกับการโทษการพนัน


ในส่วนการขายสลากในร้านสะดวกซื้อนั้นยังคงไม่นำมาดำเนินการในช่วงนี้ จะใช้กลไกเดิมไปก่อน สำหรับกรณี บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เสนอตัวมาช่วยในเรื่องแบ่งปันพื้นที่ขายให้ผู้ค้า หรือกรณีจะมาซื้อสลากไปขายเองนั้นยังคงไม่ไปถึงขนาดนั้น เพราะ ปตท.เองไม่ได้เป็นเจ้าของปั๊มทั้ง 1,400 แห่ง


สำหรับกรณีที่การฟ้องร้องของล็อกซเล่ย์จีเทค เทคโนโลยีให้สำนักงานสลากฯ ดำเนินการสัญญาในเรื่องหวยออนไลน์นั้น คงต้องมีการหารือในที่ประชุมก่อน ยังเร็วไปที่จะพูด