อสังหาฯกรุงไตรมาสแรก58 เปิดขาย22,800ยูนิต

อสังหาฯกรุงไตรมาสแรก58 เปิดขาย22,800ยูนิต

ชี้อสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ช่วงไตรมาสแรก เปิดขาย22,800ยูนิต ลดลงเปรียบช่วงเวลาเดียวกัน

ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ช่วงไตรมาสแรกจะไม่คึกคักเท่าที่ควร แต่ก็ยังมีโครงการเปิดขายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ระบุว่า ในไตรมาสแรกปี 2558 มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่รวม 95 โครงการ จำนวน 22,800 ยูนิตลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 2557 ที่เปิดขาย 104 โครงการ จำนวน 23,930 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านจัดสรร 60 โครงการจำนวน 10,620 ยูนิต คอนโดมิเนียม 35 โครงการ จำนวน 12,180 ยูนิต

ทั้งนี้ จะเห็นว่าคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่มีจำนวนยูนิตลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เปิด 34 โครงการ รวม 14,400 ยูนิต เพราะผู้ประกอบการมีการพัฒนาโครงการตลาดบนเพิ่มมากขึ้น สะท้อนจะระดับราคาขาย เนื่องจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูงกระทบกับกลุ่มตลาดกลาง-ล่าง โดยพื้นที่ที่มีการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่มากที่สุด คือ กรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี สีลม-สาทร-บางรัก ห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง สมุทรปราการ และสุขุมวิทตอนปลาย ขณะที่ปัจจุบันราคาคอนโดมิเนียมแนวโน้มปรันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีราคาขายคอนโดมีเนียมในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาปรีบเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4.7%

"หากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังไม่เพิ่มขึ้น การปิดยอดขายคอนโดมิเนียมจึงเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจต้องใช้เวลาฟื้นตัว ซึ่งโดยรวมหลายฝ่ายยังเชื่อมั่นว่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา เพียงแต่ปีนี้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายสำคัญจะมาจากกลางขึ้นบน ต่างจากปีก่อนที่เป็นตลาดระดับกลางลงล่าง"

ขณะที่ผลสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมไตรมาส 1 ปี 2558 ของฝ่ายวิจัยคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนลประเทศไทย พบว่าอัตราการขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ อยู่ที่ประมาณ 54% ต่ำกว่าหลายไตรมาส ที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากผู้ซื้อในกลุ่มของผู้ที่มีรายได้ระดับปานกลางลงไป ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ของตลาด ยังคงมีปัญหาในเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่มีผลต่อสถานะการเงิน และการขอสินเชื่อจากธนาคาร ดังนั้น ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงชะลอการเปิดขายดครงการในระดับนี้ออกไปก่อน โดยเน้นการเพิ่มสัดส่วนในตลาดระดับบนและ Luxury รวมทั้งเพิ่มสัดส่วนในโครงการบ้านจัดสรรให้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตลาดคอนโดมิเนียมอาจจะมีการขยายตัวมากขึ้นในแง่ของกำลังซื้อเมื่อผ่าน 6 เดือนแรกของปีนี้ไป และภาวะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น จากการที่รัฐบาลเริ่มเดินหน้าโครงการระบบขนส่งมวลชนต่างๆ ที่ จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่น และช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการใช้จ่ายเงินงบประมาณภาครัฐมากขึ้น และเชื่อว่าตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ จะสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะถ้าโครงการรถไฟฟ้า และรถไฟฟ้าใต้ดินต่างๆ ที่ยังคงเดินหน้าขยายออกไปตามชานเมืองอย่างต่อเนื่อง