เชลซีแชมป์-'มู'ไม่สนวิจารณ์ เรือใบเชือดไก่ยังลุ้นอันดับ 2

 ได้อีกครั้งในรอบ 5 ปี ด้วยการเปิดบ้านเฉือน คริสตัล พาเลซ 1-0 ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี บุกเฉือน "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส 1-0 ยังขอลุ้นรองแชมป์ต่อไป

"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ แม้ยังเหลือเกมให้เล่นอีก 3 นัดก็ตาม หลังเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ เฉือนชนะ "อินทรีผงาด" คริสตัล พาเลซ คู่แข่งร่วมกรุงลอนดอน 1-0 เมื่อคืนวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าบ้านได้ประตูชัยจากจังหวะที่ เอเดน อาซาร์ด ซัดลูกจุดโทษไปติดเซฟของ จูเลียน สเปโรนี นายทวารทีมเยือน แต่ยังตากไปโหม่งซ้ำตุงตาข่ายในนาที 45

ส่งผลให้ เชลซี กลับมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่เมื่อปี 2010 และเป็นการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้เป็นสมัยที่ 5 ของสโมสรขณะที่ ชูเซ มูรินโญ ยอดกุนซือชาวโปรตุกีส สามารถนำทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" คว้าแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 3 นับตั้งแต่ที่ได้กลับมาคุมทีม เป็นรอบที่ 2 หลังจากที่เคยทำได้มาแล้วถึง 2 ครั้งในช่วงปี 2005, 2006 โดยตอนนี้ เชลซี แข่ง 35 นัด มี 80 แต้ม ทิ้งห่าง "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ แชมป์เก่าจากเมื่อปีก่อน ซึ่งเป็นทีมอันดับ 2 ไปแบบขาดลอยแล้วถึง 13 แต้ม ซึ่งจะมีการจัดขบวนรถบัสแห่ถ้วยรางวัลเพื่อฉลองแชมป์ที่ใจกลางกรุงลอนดอนในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้

ภายหลังคว้าชัย ชูเซ มูรินโญ แสดงความรู้สึกดีใจที่สามารถกลับมาพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง หลังจากที่ทุกคนในสโมสรได้ร่วมกันทำผลงานหนักกันมาตลอดทั้งฤดูกาลนี้ และรู้สึกภูมิใจที่ได้คว้าแชมป์ลีกที่ถือว่ายากที่สุดของทวีปยุโรป พร้อมกับตอบโต้นักวิจารณ์ที่ปรามาสให้ เชลซี เป็นทีมที่เล่นได้น่าเบื่อว่า คำวิจารณ์ของพวกคนเหล่านั้นเป็นเหมือนกับสุนัขเห่า แต่กองคาราวานก็เคลื่อนไป

"มันมีความหมายสำหรับมาก เพราะเมื่อคุณทำงานหนักแล้ว และคุณได้เป็นแชมเปี้ยน คุณจะต้องมีความรู้สึกว่าคุณสมควรที่จะได้รับมัน แต่สำหรับผมแล้วมันเป็นความรู้สึกที่พิเศษมากๆ เพราะผมไม่ฉลาดในการเลือกประเทศ และสโมสรที่ต้องทำงานด้วย ผมสามารถเลือกสโมสรในประเทศที่คว้าแชมป์แบบง่ายๆ ได้ แต่ผมได้ตัดสินใจเลือกลีกที่ยากที่สุดในยุโรป ผมจึงดีใจที่ได้กลับมาพาทีมคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง ส่วนการเป็นนักวิจารณ์ถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ในประเทศของผมจะมีผู้คนพูดกันว่า ถึงแม้พวกสุนัขเห่ามันจะเห่า แต่กองคาราวานยังคงต้องเคลื่อนผ่านไป" มูรินโญ กล่าว

ด้าน "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ บุกไปเฉือนชนะ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส ถึงรังไวท์ ฮาร์ท เลน 1-0 ได้ประตูชัยจาก เซอร์จิโอ อเกโร นาที 29 ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ยังคงอยู่อันดับ 2 แข่ง 35 นัด มี 70 แต้ม นำหน้า "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ทีมอันดับ 3 ที่ลงแข่งน้อยกว่า 2 เกมอยู่เพียง 3 แต้ม ขณะที่ สเปอร์ส ยังคงอยู่อันดับ 6 ซึ่งเป็นพื้นที่ได้สิทธิไปเล่นในศึกยูฟ่า ยูโรปาลีก เป็นทีมสุดท้าย หลังลงแข่ง 35 นัด มี 58 แต้ม แต่มีคะแนนนำหน้า "นักบุญ" เซาแธมป์ตัน ทีมอันดับ 7 ที่ลงแข่งเท่ากันเพียงแต้มเดียว

หลังจบเกม มานูเอล เปเยกรินี กุนซือ "เรือใบสีฟ้า" เอ่ยปากชมผลงานของลูกทีมที่สามารถบุกไปชนะทีมแกร่งอย่าง สเปอร์ส ได้ถึงถิ่น เนื่องจาก เชลซี เคยพลาดท่าบุกไปแพ้ที่นี่ และโดนยิงประตูหลายลูก ก่อนจะเป็นฝ่ายแพ้แบบยับเยินด้วยสกอร์ 3-5 นอกจากนี้โค้ชชาวชิลียังได้เป้าหมายหวังลุ้นคว้าอันดับ 2 เพื่อที่จะได้เข้าป้ายรองแชมป์

"ผมมีความสุขมาก เพราะเราเล่นกับคู่แข่งที่เป็นทีมที่แข็งแกร่งได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่า เชลซี จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไปแล้ว แถมยังมีเกมรับที่ดีเยี่ยมมากๆ แต่พวกเขาก็เคยบุกมาแพ้ที่นี่ และโดนยิงประตูในเกมนั้นไปถึง 5 ลูก ผมยังคงหวังให้เราอยู่ในอันดับ 2 ต่อไปจนถึงนัดสุดท้าย" เปเยกรินี กล่าว