'ภูผา'ย่องเงียบพบตร.ยันโบนันซ่าไม่ได้รุกป่า

'ภูผา'ย่องเงียบพบตร.ยันโบนันซ่าไม่ได้รุกป่า

"ภูผา เตชะณรงค์" ผู้บริหารโบนันซ่า ย่องเข้าพบตำรวจปากช่อง รับทราบข้อหาสนามแข่งรถบุกรุกพื้นที่ป่า ปฏิเสธลั่นทุกข้อ

พ.ต.อ.บัญญัติ  ทั่งกลาง พงส.ผนก. (สบ.4) หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า วานนี้ (25 เม.ย.) 3 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายเรียกในคดีรุกป่า ประกอบด้วย 1.นายภูผา  เตชะณรงค์ (ลูกชายคนเล็กของนายไพวงษ์  เตชะณรงค์) ผู้ถือหุ้นใหญ่ กรรมการ บริษัท โบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปิดเวย์ จำกัด   2.นายปรีชากรณ์  ปราบสงบ  และ.3.นายนิธิศเชษฐ์  สุทธิเจริญกุล ตามรายชื่อผูกพันบริษัท ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาอย่างเงียบๆแล้ว ในคดีการบุกรุกพื้นที่ บริเวณสนามแข่งรถโบนันซ่า จำนวน 166 ไร่ 2 งาน 40.6 ตารางวา

โดยแบ่งออกเป็น น.ส.3 ก. จำนวน 5 แปลง รวมเนื้อที่ 55 ไร่ 3 งาน 2 ตารางวา บุกรุกป่าทั้งหมดจำนวน 105 ไร่ 3 งาน แบ่งเป็นพื้นที่ ส.ป.ก.จำนวน 57 ไร่ สวนป่า 35 ไร่ ป่าไม้ 12 ไร่ และบุกรุกพื้นที่ลำรางทางน้ำและทางสาธารณะ 4 ไร่

ส่วน นายนิธิศเชษฐ์  ซึ่งเป็นผู้จัดการถูกแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.กฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 9 (1) 108 และ 108 ทวิ ฐานร่วมกันไปยึดถือครอบครองประกอบ พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 อีก 1 ข้อหารวมเป็น 5 ข้อหา  แต่ทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะหาหลักฐานไปชี้แจงต่อศาลภายหลัง ก่อนปล่อยตัวไปโดยไม่ต้องนำหลักทรัพย์มาประกันตัว

พ.ต.อ.บัญญัติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้หลักฐานประกอบสำนวนเพื่อส่งฟ้องไปยังอัยการยังไม่ครบถ้วน ต้องสอบพยานแวดล้อมอีกหลายปาก เพื่อให้สำนวนสมบูรณ์ คาดว่าไม่เกิน 30 วัน

ด้าน นายจิระศักดิ์  สุจริตตานันท์  เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาปากช่อง กล่าวว่า ได้ทำหนังสือเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เลขที่ นม.0020.04 / 9746 ลงวันที่ 23 เม.ย.58 เสนอต่อ นายมลศักดิ์  จงรักษ์  เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ที่ออกเมื่อวันที่ 6 ส.ค.19 โดยวิธีเดินสำรวจ เพื่อออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) จำนวน 5 แปลง รวมเนื้อที่ 55 ไร่ 3 งาน 2 ตารางวา

นายกฤษติชัย  สุขมังษา  สารวัตรกำนันตำบลหมูสี อ.ปากช่อง กล่าวว่า ในพื้นที่ อ.ปากช่อง หลังเจ้าหน้าที่บูรณาการร่วมกันทวงคืนผืนป่า ทำให้ผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท กว่า 50 แห่ง ในพื้นที่ได้รับผลกระทบ เพราะผู้ที่จะมาลงทุนไม่กล้าซื้อที่ดินเกรงจะมีปัญหา แต่ในส่วนตัวคิดว่าหน่วยงานเข้าตรวจสอบนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง จะได้รู้อย่างชัดเจนว่าพื้นที่นั้นๆ ถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ แต่ขอตำหนิบางหน่วยงาน เช่น ส.ป.ก. ป่าไม้ ที่ดิน  เนื่องจากต่างฝ่ายต่างทำงานโดยไม่ประสานกัน เมื่อเกิดปัญหาถูกฟ้องร้องก็เดือดร้อนไปทั่ว