หุ้นต่างประเทศ เสาร์ 25 เม.ย.

ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่อย่าง กูเกิ้ล, อเมซอน และไมโครซอฟท์ เป็นแรงหนุนให้ดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ (24 เม.ย.) ที่ผ่านมา
    ดัชนีแนสแด็กบวกไป 36.02 จุด หรือ 0.71% ปิดที่ 5,092.09 จุด ถือเป็นการปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 บวกไป 4.76 จุด หรือ 0.23% มาปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกันที่ 2,117.69 จุด ทั้งหมดนี้เป็นผลจากแรงบวกของหุ้นกลุ่มไฮเทค โดยอเมซอนนั้นบวกแรงถึง 14.13% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังทำรายได้สูงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้มาก ส่วนหุ้นกูเกิ้ลปิดบวกไป 2.9% ด้วยเหตุผลเดียวกัน รวมไปถึงหุ้นของไมโครซอฟท์ที่ถีบตัวขึ้นไปถึง 10.45%
    ส่วนดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์สนั้นบวกไป 21.45 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 18,080.14 จุด
    สรุปรวมทั้งสัปดาห์ เอสแอนด์พีบวกไป 1.8% แนสแด็กบวกไป 3.3% และดาวโจนส์บวกไป 1.4%
.
หุ้นยุโรปบวกเพราะเชื่อมั่นข่าวดีจากกรีซ
    ดัชนีเอฟทีเอสอีของอังกฤษ บวก 0.24% ปิดที่ 7,070.70 จุด ดัชนีแค็ก 40 ของฝรั่งเศส บวกไป 0.44% มาปิดที่ 5,201.45 จุด ดัชนีแด็กซ์ เยอรมัน บวกไป 0.74% มาปิดที่ 11,810.45 จุด ซึ่งทั้งหมดเป็นผลพวงมาจากความเชื่อมั่นว่ามาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินของกรีซจะออกมาในแง่บวก

ราคาน้ำมันแตะระดับสูงสุดในรอบปี
       น้ำมันได้พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบปี ภายหลังจากที่ซาอุดีอาระเบีย นำกองกำลังพันธมิตรกลับมาทิ้งบอมบ์เยเมนต่อ โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในตลอดลอนดอน พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ 65.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนจะอ่อนแรงลงเล็กน้อยมาปิดที่ 65.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดที่ 57.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อ่อนค่าลงไป 0.55%