Corporate News

DCC    ซื้อ     ราคาพื้นฐาน 7.20 บาท (หรือ 4.50 บาท หลัง diluted)

DCC : ผลประกอบการที่ดีกว่าคาดในไตรมาสที่ 1/58 โดยอยู่ที่ 384 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2%yoy ได้สะท้อนถึงกลยุทธ์ของบริษัทในการย้ายไปยังตลาดระดับกลางถึงบน และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุมในทิศทางที่ถูกต้องท่ามกลางการอุปโภคบริโภคในต่างจังหวัดที่อ่อนแอ ด้วยกลยุทธ์นี้คาดว่าจะนำไปสู่การเติบโตของกำไรสุทธิในระดับสูงที่ 21%yoy ในปีนี้ และ 16%yoy ในปีหน้า คงคำแนะนำ ซื้อ โดยปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 7.20 บาท หรือ 4.50 บาท หลัง fully dilution (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)

BCP ซื้อ ราคาพื้นฐาน 42.75 บาท

BCP : บริษัทจะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1/58 ในช่วงเย็นวันที่ 11 พ.ค. 2558 ทั้งนี้แม้จะยังมีผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากการขาดทุนสินค้าคงคลัง เราคาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้นในไตรมาสที่ 1/58 จากค่าการกลั่นที่กว้างขึ้น รวมทั้งเป็นฤดูกาลที่แข็งแกร่งสำหรับธุรกิจปั๊มน้ำมันรายย่อย และส่วนแบ่งที่มากขึ้นจากส่วน E&P เราคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะมีโมเมนตัมที่น่าประทับใจต่อเนื่องไปยังไตรมาสที่ 2/58 จากการไม่มีผลกระทบจากการขาดทุนสินค้าคงคลัง ขณะที่ราคาหุ้นนั้นปรับตัวช้ากว่ากลุ่มที่สุดเทียบกับ TOP และ ESSO คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐานที่ 42.75 บาท (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)

EFORL ซื้อ ราคาพื้นฐาน 2.20 บาท

EFORL : นายธีรวุทธิ์ ปางวิรุฬรักข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) เผยว่า แนวโน้มรายได้และกำไรในปีนี้ น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เนื่องจากมีการรับรู้รายได้เต็มปีจาก วุฒิ-ศักดิ์ คลีนิก อินเตอร์กรุ๊ป ทั้งนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดด้านสุขภาพและความงามที่ยังเป็นธุรกิจดาวรุ่งของปี ซึ่งส่งผลดีต่อวุฒิ-ศักดิ์ โดยตรง อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ขณะเดียวกันธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% ในปีนี้ เนื่องจากบริษัทเพิ่มการนำเข้าเครื่องมือแพทย์ที่มีมาร์จิ้นสูง (ข่าวหุ้น)

Sector News

กลุ่มอาหาร : หลังจากที่สหรัฐได้ปรับลดอันดับของไทยมาอยู่ที่ระดับ 3 ในรายงานการค้ามนุษย์ในปีที่แล้ว กลุ่มสหภาพยุโรปในปีนี้เป็นอีกคู่ค้าของไทยที่กำลังพิจารณาห้ามการนำเข้าสินค้าประมงจากไทยในปีนี้ อย่างไรก็ดี ผลกระทบต่อบริษัทในกลุ่มอาหารได้แก่ CFRESH, CPF และ TUF นั้นน้อยมาก จากการใช้กุ้งจากฟาร์มเลี้ยงกุ้ง หรืออาจทำการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นเพื่อแก้ปัญหา คงน้ำหนักการลงทุน เท่าตลาด หุ้นเด่นในกลุ่มได้แก่ TUF (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)

        TUF ซื้อ ราคาพื้นฐาน 23.60 บาท