แจงโยก 'บิ๊กศธ.' ตามความสามารถเพื่อการปฏิรูป

แจงโยก 'บิ๊กศธ.' ตามความสามารถเพื่อการปฏิรูป

"พล.ต.สรรเสริญ" โฆษกรบ. แจงปรับโยกบิ๊กศธ.เพื่อการปฏิรูป เผยมีมูลส่อทุจริตต้องพักงานรอสอบ ยันนายกฯใช้ ม.44 อย่างมีเหตุผล

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเหนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 6/2558 และ 7/2558 เกี่ยวข้องกับการโยกย้ายตำแหน่งหน้าที่และพักราชการ ในกระทรวงศึกษาธิการว่า ตั้งแต่ที่ คสช.เข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวห้นา คสช.มีแนวทางและนโยบายในการปฏิรูปด้านต่างๆรวมทั้งด้านการศึกษา จึงจำเป็นที่จะต้องจัดบุคลากรให้เหมาะกับความรู้ความสามารถ คำสั่งที่ออกมานั้นจะเห็นได้ว่า แต่ละบุคคลมีแนวทางการเจริญเติมโตในหน้าที่แบบใด และวันนี้เราจึงปรับให้บุคลากรเหล่านั้นกลับที่ทำงานที่ถนัดในทิศทางที่ได้เจริญเต็มโตมา เพราะที่ผ่านมาฝ่ายการเมืองมีการแต่งตั้งบุคลากรที่ไม่ตรงกับความสามารถ เช่น นายสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ก่อนหน้านี้มีความรู้และเติบโตมาจากสภาการศึกษา จึงปรับไปเป็นเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นต้น ซึ่งหากมีการปรับเมื่อตอนที่ คสช.เข้ามาใหม่ ๆ ก็อาจจะถูกมองว่าเข้าไปแทรกแทรงจึงได้ให้ระยะเวลาผ่านมาจน 6 เดือน ก็ได้เริ่มทำกัน เพราะพล.อ.ประยุทธ์ เห็นว่า ถ้าหากปรับบุคลากรให้ตรงกับความรู้ความสามารถก็จะทำให้การปฏิรูปการศึกษารวดเร็วขึ้น

ต่อข้อถามที่ว่าคำสั่งให้พักราชการเกี่ยวข้องกับการมีมูลการทุจริตภายในกระทรวงหรือไม่ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า สำหรับการทุจริตภายในกระทรวงเมื่อมีข้อมูลข่าวสารมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งพบว่ามีความเป็นไปได้ และได้มีคำสั่งให้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นก็ให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ(คตร.) เข้าไปตรวจสอบ แต่ไม่ได้หมายความว่ามีการทุจริตจริงหรือไม่ แต่มีการร้องเรียนมา เมื่อมีการตรวจสอบเบื้องต้นว่ามีมูลอาจเป็นไปได้ เราก็ให้ คตร.เข้าไปตรวจ จึงให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน เพื่อการตรวจสอบอย่างมีประสิทธิภาพ คงไว้เฉพาะตำแหน่งที่มีความจำเป็น

“การปรับเปลี่ยนตำแหน่งในกระทรวงจะเกี่ยวกับเรื่อง 100 ข้าราชการส่อเกี่ยวข้องกับทุจริต หรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ และขณะนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะเปิดเผยว่า 100 รายชื่อมีใครบ้าง ข้อมูลมีอยู่แต่ต้องตรวจสอบในรายละเอียด”พล.ต.สรรเสริญ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าทุกกระทรวงต่างมีปัญหา จะมีคำสั่นลักษณะนี้ออกมาอีกหรือไม่ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า เป็นอำนาจหน้าของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช.จะดำเนินการกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลเพ่งเล็งกระทรวงหนึ่งกระทรวงใด เพราะทุกกระทรวงมีปัญหาของตัวเอง แต่ทุกกระทรวงมีแนวทางแก้ไขและรับนโยบายจากนายกฯ ติดขัดตรวจไหนก็แก้ แก้ไขไม่ได้เป็นอำนาจหน้าที่ของนายกฯจะตัดสินใจ ทั้งนี้ ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจในมาตรา 44 อย่างสร้างสรรค์ เราไม่ได้โยกย้ายแต่งตั้งไปตามทิศทางการเมือง เราไม่เคยคิดถึงการเมือง คิดถึงแต่เหตุและผลของการปฏิรูปที่จะทำให้นโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลขับเคลื่อนด้วยเหตุและผล เป็นคำตอบกับประชาชนได้ เรามักจะหลีกเลี่ยงคำว่าเพื่อความเหมาะสม เพราะคำว่าเพื่อความเหมาะสมเหมือนกับเป็นการตอบไปอย่างนั้น แต่จะมีเหตุและผล