'วรวัจน์' อัด คสช. ใช้ม.44ย้ายขรก. ทำมาตรฐานบิดเบี้ยว

'วรวัจน์' อัด คสช. ใช้ม.44ย้ายขรก. ทำมาตรฐานบิดเบี้ยว

"วรวัจน์" อดีตรมว.ศึกษา จากเพื่อไทย อัด "คสช." ใช้ ม.44 โยกย้าย ขรก.ศึกษา ทำมาตรฐานบิดเบี้ยว

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตรมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมชั่วคราวปี 57 โยกย้ายปลัดกระทรวงศึกษาธิการว่า การใช้มาตรา 44 โยกย้ายหรือกระทำใด ๆ เป็นการวางมาตรฐานกฎหมายใหม่ในอนาคต หากไม่มีใครมาลบล้างกระบวนการมาตรา 44 จะมีอำนาจเหนือนิติบัญญัติ ตุลาการ ดังนั้นการจะใช้มาตรา 44 ต้องระมัดระวัง

การโยกย้ายแบบนี้เหมือนวางกฎหมายที่เหนือกว่าศาลฎีกา เหนือกว่ากฎหมายนิติบัญญัติ เป็นอำนาจบริหารที่สูงสุด หากวางมาตรฐานเช่นนี้ไม่ว่ารัฐบาลต่อ ๆ ไปหรืออะไรก็ตาม ใครจะโยกย้ายอะไรก็อ้างกฎหมายของคสช.ว่าสามารถดำเนินการได้ เหมือนคำตัดสินของศาลฎีกาเทียบเคียง เป็นการวางมาตรฐานใหม่ของประเทศ ซึ่งอันตราย ถ้าไม่มีใครยกเลิกกฎหมายฉบับนี้ผู้บริหารประเทศสามารถโยกย้ายคนได้ตามใจชอบไม่ว่าจะถูกหรือไม่ถูกก็ตาม ควรใช้มาตรา 44 เมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น

ความจริงกรณีนี้ใช้เพียงมติครม.ก็ได้ แต่รัฐบาลอาจกลัวว่าหากใช้มติครม.จะมีการร้องเรียนและคงกลัวว่าจะโดนข้อหาผิดทั้งครม.เหมือนที่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(คสช.) จึงใช้มาตรา 44 แทน เพราะอำนาจตามมาตรา 44 ไม่มีใครฟ้องร้องได้ วางมาตรฐานใหม่ว่าครม.สามารถโยกย้ายได้ทั้งหมด เป็นการวางมาตรฐานที่เกินความจำเป็น ทำให้การวางมาตรฐานบิดเบี้ยว และทำให้คนรู้สึกไม่ดี

นายวรวัจน์ กล่าวอีกว่า อยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาประเทศให้จบ เพราะประชาชนเดือดร้อนมาก ทุกคนอยากกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะนี้รัฐบาลอยากทำอะไรก็ทำ เราไม่ป่วน แต่ขอทำให้ประเทศดีขึ้น ทำรัฐธรรมนูญให้ดี อยากให้รัฐบาลลองทำโพลรับฟังความรู้สึกของประชาชนว่าประชาชนรู้สึกอย่างไรกับการโยกย้าย หากจะบอกว่าใช้เฉพาะกิจก็ไม่ใช่ จะเห็นว่าอย่างในอดีตครม.ทำได้หรือไม่ การวางกฎหมายแบบนี้เสี่ยงต่อการกระทบกระเทือนจิตใจของคนได้ง่าย หากฝ่ายบริหารต่อ ๆ ไป เทียบเคียงแบบนี้จะเป็นอย่างไร