คาดหุ้นเช้าปรับขึ้นต่อรับเลิกกฎอัยการศึก

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เปิดเผยว่า ปัจจัยที่สำคัญที่จะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นในวันนี้ ได้แก่ การที่ในหลวงโปรดเกล้าฯ ยกเลิกกฎอัยการศึกเมื่อค่ำวานนี้ และคสช.ประกาศใช้ ม.44 ในการควบคุมสถานการณ์แทน ,การจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด แรงกดดันต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดลดลง ,ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยวันนี้ ส่วนกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่ปิดการขาย IPO ไปแล้วทั้งสิ้น 5 กองทุน ระดมทุนได้ราว 2.0-2.7 พันล้านบาท และอยู่ระหว่างการปิดการขายในสัปดาห์นี้อีก 3กองทุน วงเงิน 3.0 พันล้านบาท

มุมมองต่อตลาดเป็น “กลาง” แนวต้านบริเวณ 1530-1535 จุด ยังไม่น่าจะผ่านได้ในวันนี้ หลัง SET INDEX ปิดบวกมาตลอด 2 วันราว 25 จุด อีกทั้งต้นสัปดาห์หน้าเป็นช่วงวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย อาจทำให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไรปิดความเสี่ยงดังกล่าว อย่างไรก็ตาม Downside risk ของ SET INDEX ช่วงนี้เป็นไปอย่างจำกัด แนวรับ 1520 จุดเชื่อว่าจะทำงานได้อย่างแข็งแกร่งในวันนี้

บล.ธนชาต คาดว่า การประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกอย่างเป็นทางการค่ำวานนี้ จะหนุน SETปรับสูงขึ้นต่อ โดยแนวโน้ม SET ระยะสั้นมีจังหวะ ฟื้นตัวต่อไปที่เป้าหมาย 1530(อาจมีแรงขายทำกำไรบ้าง)และถัดไป1550จุด จาก 1.ยกเลิกกฎอัยการศึก หนุนกลุ่มท่องเที่ยว 2.การเข้าซื้อของ Trigger Fund 5-6 พันล้านบาท 3.สภาพคล่องในประเทศระดับสูง ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล US$3.5 พันล้าน 4.เจรจา Charter Flight บินต่อหนุนกลุ่มการบิน และ5.SET เกิดสัญญาณ Morning Star เป็นสัญญาณ กลับตัว ทางเทคนิค ตั้งแต่ต้นสัปดาห์

ทั้งนี้ มองว่า การลงทุนภาครัฐฯ อาจเร่งตัวเร็วขึ้นหลังใช้ ม.44 หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ และเกี่ยวข้องกับนโยบายภาครัฐฯ อาจได้รับผลดีจากการใช้ ม.44 เนื่องจากทำให้กระบวนการในลงทุนกระชับ และใช้กระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีขึ้น แนะนำ “ซื้อ”กลุ่มรับเหมาฯ วัสดุก่อสร้าง SCC CK STEC SEAFCO กลุ่มที่ลงทุนเกี่ยวกับพลังงานทางเลือก EA SAMART TPIPL (TPIPL – ไม่ได้อยู่ใน TNS Coverage) กลุ่มท่องเที่ยว AOT รวมถึงกลุ่มหุ้นใหญ่ KBANK