'ไพบูลย์'ไฟเขียวสอบโบนันซารุกป่า

'ไพบูลย์'ไฟเขียวสอบโบนันซารุกป่า

"พล.อ.ไพบูลย์" ไฟเขียวรองปลัดยธ.สอบโบนันซา ปูพรมสอบคดีรุกป่าภาคอีสาน ลั่นไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ก่อสร้างสนามกอล์ฟและสนามแข่งรถของบริษัท โบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดว่า ตนได้มอบหมายให้พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับผิดชอบสนธิกำลังภายใต้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอ.ตช.) เนื่องจากต้องประสานงานกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย เบื้องต้นได้รับรายงานว่า หลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่าบริษัทเอกชนดังกล่าว มีการกระทำความผิดจริง จึงสั่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการต่อ อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ดุษฎีได้รายงานว่า ยังมีการกระทำความผิดในลักษณะนี้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกหลายพื้นที่ ตนจึงสั่งการให้เดินหน้าตรวจสอบต่อไปไม่เฉพาะพื้นที่ภาคอีสานเท่านั้น

“เราไม่จำเป็นต้องเปิดยุทธการใดๆเป็นพิเศษ เพียงแต่ขอให้รองปลัดยุติธรรมระวังตัวในการทำงาน เนื่องจากเป็นการตรวจสอบนายทุนหรือผู้มีอิทธิพล อย่างไรก็ตาม การทำงานไม่ได้เลือกว่าการตรวจสอบปัญหาการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติจะเป็นฝ่ายใดหรือเกี่ยวข้องกับใคร เพราะปัญหาเกิดขึ้นมานานแล้ว ผมไม่ได้เลือกว่าจะเน้นตรวจสอบฝ่ายไหน อยากดูการทำงานและให้เวลาเป็นตัวตัดสินว่าเราดำเนินการเอาผิดเฉพาะกลุ่มหรือไม่ เรื่องนี้ยังไม่มีใครมาเคลียร์ ถ้าทำผิดก็ต้องผิด ไม่ต้องมาเคลียร์กับผม และมั่นใจว่าไม่มีผู้ใหญ่ที่ไหนจะกล้ามาเคลียร์ให้ถ้าทำผิดกฎหมาย เพราะไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า กรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าของโบนันซาถือว่า มีการทำความผิดสำเร็จแล้ว เพราะมีสิ่งปลูกสร้างเกิดขึ้นมาหลายปี เมื่อความผิดเกิดขึ้นแล้ว ถึงแม้จะบอกว่ายอมคืนพื้นที่ให้กับทางราชการก็ไม่พ้นความผิดตามกฎหมาย ส่วนเจ้าหน้าที่เคยตรวจสอบพบว่าเอกชนทำความผิดจริงมานานแล้ว แต่กลับไม่ยอมดำเนินการตามกฎหมายก็ต้องมีความผิดเช่นกัน เบื้องต้นจะเปิดโอกาสให้ชี้แจงเหตุผลที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กับหน่วยงานในสังกัดก่อน

นายธนวัฒน์ สนิทศักดิ์ดี เจ้าหน้าที่สืบสวนชำนาญการคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการลงพื้นที่ตรวจสอบสนามแข่งรถโบนันซ่า สปีดเวย์ ต.ขนงพระ อ.เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ของบริษัท โบนันซา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาบุกรุกตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 กับนายนิธิศเชษฐ์ สุทธิเจริญกุล กรรมการบริหารบริษัท โบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแน สปีดเวย์ ซึ่งเป็นผู้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ แต่จากหลักฐานเอกสารที่ตรวจพบจากน.ส.3 ก.ที่ใช้อ้างการครอบครองที่ดินดังกล่าวชัดเจนว่าสนามแข่งรถดังกล่าวก่อสร้างรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ รวมถึงบุกรุกพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน ประมาณ 103 ไร่ หลังจากนี้จะต้องเสนอให้กรมที่ดินเพิกถอนตามกฎหมาย นอกจากนี้ในการตรวจสอบยังพบประเด็นที่นายไพวงศ์ เตชะณรงค์ มีชื่อเป็นผู้เสียภาษีบำรุงท้องที่( ภบท.5)ตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเรียกเข้าให้ปากคำในฐานะที่มีชื่อเป็นผู้ครอบครองที่ดินด้วย 

สำหรับพื้นที่ของโบนันซ่าจากการตรวจสอบพบว่านอกจากสนามแข่งรถแล้วยังมีสนามกอล์ฟและพื้นที่อีกหลายจุดที่มีการขยายพื้นที่เพิ่มเติมจากเอกสารสิทธิ โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารเพื่อขยายผลไปตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดของโบนันซา