ครม.ไฟเขียวแผนความร่วมมือด้านวัฒนธรรมไทย-จีน

ครม.ไฟเขียวแผนความร่วมมือด้านวัฒนธรรมไทย-จีน

ครม.ไฟเขียวแผนความร่วมมือด้านวัฒนธรรม" ไทย-จีน" แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ฉลองสัมพันธ์ 40 ปี

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ฉบับที่ 4 ระหว่างปี 2558-2560 ตามที่ วธ.เสนอ เพื่อทดแทนแผนปฏิบัติการฉบับที่ 3 ปี 2554-2556 ทั้งนี้ที่ผ่านมาระหว่างไทยและจีนได้ลงนามในความร่วมมือด้านวัฒนธรรมมาแล้ว จำนวน 3 ฉบับ เริ่มตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตามสำหรับแผนความร่วมมือดังกล่าวจะครอบคลุมกิจกรรมการแลกเปลี่ยนการเยือนและจัดกิจกรรมทางด้านวัฒนธรรมระหว่างกัน ทั้งในรูปแบบดั้งเดิมและร่วมสมัยทั้งในด้านการแสดงนาฏศิลป์และดนตรี ทัศนศิลป์ หอสมุด จดหมายเหตุ สถาปัตยกรรม พิพิธภัณฑ์ โบราณคดี วรรณกรรม พุทธศาสนา รวมทั้งขยายความร่วมมือในด้านใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น โบราณคดีใต้น้ำ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ เป็นต้น

นายวีระ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ วธ.และกระทรวงวัฒนธรรมของจีน จะร่วมกันทำกิจกรรมและความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 3 ปีต่อจากนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนและช่วยเสริมสร้างให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้งด้านวัฒนธรรมมากขึ้น ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 2-7 เมษายนนี้ ตนพร้อมคณะผู้บริหารจะเดินทางลงนามในแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่สำคัญในปี 2558 ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนครบรอบ 40 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน จึงจะเป็นการผลักดันให้เกิดการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนในทั้งสองประเทศ ซึ่งจะปัจจัยสำคัญที่เอื้อต่อการดำเนินความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนในด้านอื่นๆ

รมว.วธ. กล่าวต่อว่า นอกจากการเดินทางไปลงนามความร่วมมือแล้ว วธ. ได้ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ การจัดแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ การแสดงนาฏศิลป์ และดนตรีไทย เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่สำคัญเป็นการฉลองความสัมพันธ์ ไทย-จีนครบรอบ 40 ปีด้วย