เบรก 'สปช.' เสนอถกแก้ร่างรธน.ที่ไม่เห็นด้วย

เบรก 'สปช.' เสนอถกแก้ร่างรธน.ที่ไม่เห็นด้วย

“เทียนฉาย”เบรก “สปช.” หลังเสนอให้หาวิธีอภิปรายร่างรธน. เพื่อให้แก้ร่างรธน.ที่ไม่เห็นด้วย ย้ำต้องคำนึงกรอบกฎหมาย

นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แจ้งกับที่ประชุมสปช.ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ถึงกำหนดการประชุมสปช. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 20 – 26 เม.ย. ว่าจะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 – 21.00 น. ทั้งนี้อาจยืดหยุ่น ถึงเวลา 24.00 น. ได้ถ้าจำเป็น ทั้งนี้ในวันที่ 23 เม.ย. จะเริ่มประชุมเวลา 14.00 น. เนื่องจากช่วงเช้า สภานิติบัญญัตติจะใช้ห้องประชุม อย่างไรก็ตามการกำหนดเวลาประชุมต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมาย เพื่อไม่ให้ขัดหรือแข้งกับรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 กำหนด คือ สปช. ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 10 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับร่างรัฐธรรมนูญจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะได้รับร่างรัฐธรรมนูญมาในวันที่เท่าใด เนื่องจากกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ สามารถแก้ไขได้จนถึงวันสุดท้ายและเมื่อฝ่ายเจ้าหน้าที่สปช.ได้รับร่างรัฐธรรมนูญแล้วต้องจัดทำสำเนาให้สมาชิกฯ ทั้งนี้ขอให้สมาชิกฯแจ้งข้อมูลด้วยว่าจะรับด้วยตนเองหรือไม่เพื่อไม่ต้องส่งเอกสารหรือสำเนาเอกสารที่ต้องใช้ประชุมไปทางไปรษณีย์

นายเทียนฉาย ยังได้รับข้อเสนอของสปช.ที่ให้ความเห็นต่อการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญ ที่ต้องการให้การอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญมีผลในทางปฏิบัติ เพราะในหลายประเด็นของร่างรัฐธรรมนูญสปช. จำนวนมากนั้นไม่เห็นด้วยว่าจะรับไปพิจารณาแต่ต้องคำนึงถึงกรอบที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ขณะที่การเสนอญัตติขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญมีเงื่อนไขที่กำหนดไว้ว่าต้องมีผู้รับรองไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 จะหมายถึงมีผู้เสนอญัตติ จำนวน 1 คน และต้องมีผู้รับรอง 25 คน รวมในหนึ่งญัตติต้องมีรายชื่อสปช. จำนวน 26 คน

ด้านน.ส.ทัศนา บุญทอง รองประธาน สปช. คนที่ 2 ชี้แจงถึงการจัดลำดับอภิปรายด้วยว่าจะให้ คณะกมธ.ปฏิรูป ทั้ง 18 คณะ เป็นผู้ที่อภิปรายก่อน ส่วนกมธ.ปฏิรูปชุดใดจะได้สิทธิอภิปรายก่อน จะใช้วิธีจับฉลากขณะที่ในส่วนการอภิปรายของกมธ.ปฏิรูปนั้นจะเรียงลำดับ คือ ประธานกมธ.หรือผู้ที่ประธานกมธ.มอบหมาย จากนั้นจะเป็นสมาชิกกมธ.ที่ได้สิทธิอภิปรายในส่วน กมธ. จำนวนไม่เกิน 4 คน จากนั้นจะเป็นการอภิปรายของสปช.ขณะที่การอภิปรายนั้นได้วางกรอบไว้คือ จะเป็นการอภิปรายภาพรวมของร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับก่อน จากนั้นจะเรียงลำดับตามรายภาค และรายหมวดของร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้นสปช.ที่ประสงค์จะอภิปรายขอให้แจ้งรายละเอียดด้วยว่าจะอภิปรายในภาคใด หรือหมวดใด และมาตราใดบ้าง จากนั้นจะใช้วิธีเรียงลำดับอภิปราย ด้วยการจับฉลาก อย่างไรก็ตามผู้ที่ได้สิทธิอภิปรายนั้นสามารถสละสิทธิอภิปรายได้ แต่ไม่สามารถโอนเวลาอภิปรายให้ผู้อื่นได้และหากถึงกำหนดเวลาอภิปรายแต่ผู้ถึงลำดับไม่อยู่ในห้องประชุม ยังสามารถได้สิทธิอภิปรายแต่ต้องไปต่อท้ายผู้อภิปรายในประเด็นนั้นลำดับสุดท้าย ทั้งนี้ผู้อภิปรายไม่สามารถแลกลำดับอภิปรายได้ เว้นแต่มีเหตุจำเป็น