ชี้นายกฯมีม.44ในมือ เชื่อไม่สั่งอะไรที่ผิดศีลธรรม

ชี้นายกฯมีม.44ในมือ เชื่อไม่สั่งอะไรที่ผิดศีลธรรม

“ไพบูลย์” ระบุนายกฯมี มาตรา 44 อยู่ในมือ แต่ไม่ใช้สั่งอะไรที่ผิดศีลธรรม อ้างการข่าวกลุ่มเคลื่อนไหว-ระเบิดป่วน คงอัยการศึก

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “ เจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์กรณีให้ใช้ ม.44 แทนกฎอัยการศึกว่า การออกกฎอัยการศึกกระทบการลงทุน  การท่องเที่ยวหรือไม่ จึงมาคิดว่า เราจำเป็นต้องมีกฎหมาย เพราะมาตรา 44 ทำแล้วทำได้รวดเร็ว ถ้ามีกระบวนการโน่นนี่นั่นมันจะช้า มันต้องมีกระบวนการรองรับไว้

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากฎอัยการศึกนายกรัฐมนตรี พูดเสมอว่า ท่านไม่เคยสั่งใช้กฎอัยการศึกเกินเลย ให้ทุกคน ทั้งคสช. และตำรวจ ใช้กฎหมายปกติ ตนจำได้ครั้งหนึ่งกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงแล้วอ้างกฎหมายคสช.ซึ่งนายกฯได้โทรมาหาตนและถามว่าทำไมกฎหมายปกติมีอยู่แล้วแต่ไปอ้างกับประชาชนว่าขณะนี้ประกาศกฏอัยการศึก เพราะกฎหมายปกติที่มีอยู่ก็สามารถใช้ได้ ซึ่งนายกฯให้ตนไปชี้แจงและทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่ต้องอ้างกฎอัยการศึก เพราะเรื่องที่ทำผิดกันทุกวันใช้กฎหมายปกติได้คือความนุ่มนวลนั่นคือเจตนารมย์ที่นายกฯ พยายามที่จะไม่ใช้กฎอัยการศึกมาตลอดเวลา อีกทั้งไม่ได้นำมาใช้ในทุกมาตราแต่ใช้เพื่อบางเจตนารมย์

"วันที่ 22 พ.ค. 2557 ประชาชนหรือพวกเราหลาย ๆ คนลืมไปแล้วใช่หรือไม่ว่าทำไมคสช.ต้องเดินเข้ามาก็เนื่องจากประเทศบริหารราชการไม่ได้ บ้านเมืองมีปัญหา ทุกครั้งที่พูดกันเรื่องกฎหมายต้องย้อนกันให้มากๆ ไม่ใช่ 10 เดือนผ่านไปท่านลืมกันหมด กฎอัยการศึกใช้เพื่ออะไร เจตนารมย์ของคสช. และหัวหน้าคสช.ที่เข้ามาไม่มีเจตนารมย์จะใช้กฎอัยการศึกในเรื่องความรุนแรง แต่ใช้ในเรื่องที่จะบังคับวิถี สภาพแวดล้อมมันเอื้อต่อการปฏิรูปให้มีความสงบเรียบร้อย อะไรที่ไม่ปลอดภัยกับประชาชน อะไรที่จะมาจากด้านมืดกลุ่มอิทธิ หรือภาวะปัญหาของชาติเรื่องยาเสพติด"    

ส่วนกรณียังไม่ยกเลิกกฎอัยการศึกนั้น พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า จากรายงานการข่าวหรือจากเหตุการณ์ต่าง ๆ  ยังคงมีระเบิด การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ พยายามที่จะไม่ให้เกิดความสงบเรียบร้อย หรือแอบแฝงในหลายรูปแบบการเคลื่อนไหวตนพูดไปอาจจะไม่มีใครเชื่อถ้าไม่มีใครเชื่อ ตนพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่เราเชื่อในเรื่องงานข่าว

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า 10 เดือนที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี มีเจตนารมย์ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมือง และที่ผ่านมานายกฯไม่เคยใช้กฎหมายให้เกินเลย ทั้งนี้ มาตรา 44 มีอยู่ในมือท่านตลอดเวลา ท่านก็ไม่เคยไปสั่งอะไรที่มันผิดศีลธรรมมันเกินเลยกว่าเหตุบ้างหรือไม่ เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะมาทดแทนกฎอัยการศึก มันจำเป็นต้องใช้ มาตรา 44 เพื่อความรวดเร็ว แต่ในเนื้อหาตนเชื่อมั่นว่านายกฯ และคณะคสช.ไม่ไปใช้ในสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ในสังคม จะไม่ใช้เพื่อทำให้การปฏิรูปตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. มันพังทลายลงไป แต่จะพยายามลดให้ มันเบา 

"ที่ผ่านมา มาตรา 44 ก็ไม่ได้เคยนำมาใช้ ทั้งที่สามารถนำมาใช้ได้ตลอดเวลา  ขอให้ประชาชนทุกคนเชื่อมั่นว่าเราไม่ได้ใช้กฎหมายเกินเลย และขอฝากไปยังกลุ่มหลาย ๆ กลุ่มที่ออกมา เคลื่อนไหวมีระเบิด ขอให้เข้าใจและหยุดการเคลื่อนไหวได้แล้ว มันเป็นสิ่งที่เห็นกันอยู่แล้ว ว่าทำไมยังจำเป็นต้องคงสิ่งนี้ไว้ ไม่เช่นนั้นเจตนารมย์เรื่องการปฏิรูป ที่คสช.ตั้งใจที่จะทำให้ประเทศชาติสงบ มันก็ไม่สำเร็จ ถ้าไม่สำเร็จแล้ววันที่ 22 พ.ค.คสช.จะเข้ามาทำไม "