Market Focus

Market Focus

SET ขาดปัจจัยบวก Rebound อย่างจำกัด

SET View 

- แนวโน้มวันนี้เป็นลบ มองกรอบเคลื่อนไหว 1,480 - 1,515 จุด 

เรามองว่าการฟื้นตัวของ SET เมื่อวันศุกร์โดยสามารถกลับมาปิดลบเพียงเล็กน้อยเป็นเพียงแรงซื้อเก็งกำไรของนักลงทุนรายย่อยและพอร์ตโบรกเกอร์เท่านั้นขณะที่ปริมาณซื้อขายเบาบางต่อเนื่องทั้งสัปดาห์สะท้อนให้เห็นว่า ความสนใจของนักลงทุนต่างชาติและสถาบันยังไม่มั่นใจ ทำให้ยังเป็นผู้ขายสุทธิตลอดสัปดาห์เช่นกัน เราจึงยังไม่เชื่อว่ากลุ่มที่มี Market Cap. ขนาดใหญ่ทั้งธนาคารและพลังงานจะรีบาวน์กลับในสัปดาห์นี้ โดยสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์จะเริ่มทำ Earnings Preview กลุ่มธนาคาร ซึ่งหากดูจากตัวเลขส่งออกของเดือน ก.พ. ที่หดตัว 6% ยอดสินเชื่อ 2M58 ที่ติดลบ -0.41% YoY รวมถึงการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. ก็พอจะบอกได้คร่าวๆแล้วว่าใน 1Q58 กำไรของกลุ่มธนาคารน่าจะลดลงเมื่อเทียบกับ 4Q57 หรืออย่างดีที่สุดอาจจะเพียงแค่ทรงตัวเท่านั้น
เราประเมินว่า มีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนรายย่อยจะเริ่มกลับมาเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กที่ราคาปรับลงมามากๆในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังคงไม่มีแรงหนุนมากพอที่จะทำให้ SET กลับไปยืนเหนือระดับ 1,500 จุด ได้อย่างแข็งแกร่ง ดังนั้นการรีบาวน์ของ SET จะจำกัดและมีโอกาสพลิกกลับลงลึกกว่าจุดต่ำสุดเดิมในสัปดาห์ก่อนที่ 1,485 จุด ในการประเมินทางเทคนิค การเคลื่อนไหวของ SET ใต้เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันบริเวณ 1,530 จุดและเส้น 200 วันที่ 1,540 จุด ยังแสดงแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน

- กลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนระยะสั้น หลีกเลี่ยงการเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็ก ส่วนนักลงทุนระยะกลาง ควรรอให้ SET ปรับลดลงสะท้อนความคาดหวังต่อการปรับลดประมาณการกำไรลงมาให้ใกล้เคียงความเป็นจริงก่อน เราประเมินว่า บริเวณ 1445 จุด เป็นระดับที่น่าจะสะสมหุ้นอีกครั้ง หรือประมาณเดือน พ.ค. ที่บริษัทจดทะเบียนประกาศงบ 1Q58

  Top Daily Pick : MINT คาดธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวในปี 58 ตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหนุนผลประกอบการโตถึง 30% YoY ระยะสั้นจะรับผลดีจากการซื้อกิจการ Tivoli Hotel สยายปีก Global company / M ยอด SSSG ออกตัวดีในช่วง 2 เดือนแรกของปี เฉลี่ย +2.5% มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เพิ่มขึ้น 1% คงมุมมองการฟื้นตัวปีนี้ ขณะที่บริษัทยังคงแผนขยายสาขาในประเทศและมองหาแผน M&A เพื่อรุกต่างประเทศ

  Technical Pick : BA EMC NMG TPIPL IFEC

  Theme Play: กลุ่มนำตลาด Laggard Play (PTT PTTEP TUF CPF PTTGC DTAC CPALL CPN)

Strategy Talk

- กลยุทธ์การลงทุนประจำเดือน เม.ย. 2558

แนวโน้มตลาดหุ้น เราประเมินว่า SET ยังมีความเสี่ยงต่อการปรับฐานตลอดทั้งเดือน เม.ย. โดยคาดกรอบ SET ไว้ที่ 1,460 – 1,560 จุด จากปัจจัยกดดันในประเทศเป็นหลักด้วย SET ณ ระดับปัจจุบันซื้อขายที่ 21x Trailing P/E ระดับแพงสุดในรอบ 5 ปี มีความเสี่ยงต่อการปรับพอร์ตของนักลงทุนระยะกลางหลัง หลังมีหุ้นทยอยขึ้น XD ราว 160 ตัวใน เดือน เม.ย. รวมถึงหุ้นกลุ่มธนาคารมีโอกาสถูกปรับลดประมาณการกำไรลงมาในช่วงก่อน/หลังการประกาศงบ 1Q58 (เริ่มประกาศงบราวกลางเดือน เม.ย.) ผลจากการเติบโตของสินเชื่อค่อนข้างอ่อนแอ รวมถึงการฟื้นตัวของ GDP ช้ากว่าคาดและมีแนวโน้มถูกปรับลงในระยะต่อไป ขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มที่อิงกับการเติบโตในประเทศ (Domestic Play) อาทิ ค้าปลีก โรงพยาบาล อาหารเครื่องดื่ม ก็มีความเสี่ยงต่อการถูกทบทวนประมาณการเช่นเดียวกัน ด้านภูมิภาคเชื่อว่าช่วงใกล้การประชุม FOMC ครั้งต่อไป 28-29 เม.ย. ความวิตกต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะกลับมากดดันความเชื่อมั่นตลาดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการปรับตัวลงของ SET จะมีโอกาสปรับขึ้นมาได้เป็นระยะๆจากข่าวการออกกองทุน Trigger Fund ของนักลงทุนสถาบัน รวมถึงความคืบหน้าการทำ QE ของ ECB

ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม (1) 3 เม.ย. สหรัฐประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll) และอัตราว่างงานเดือนมี.ค. หากดีกว่าเดือนก่อน (การจ้างงานสูงกว่า 2.75 แสนตำแหน่ง หรืออัตราว่างงานต่ำกว่า 5.5% จะสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐในเดือนมิ.ย.) จะเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อตลาด โดยผลการประชุม FOMC วันที่ 29 เม.ย.จะยืนยันมุมมองเฟดต่อการเปลี่ยนนโยบายอัตราดอกเบี้ย และจะมีนัยต่อทิศทางตลาด (2) กลางเดือน เริ่มประกาศงบ 1Q58 ของกลุ่มธนาคาร ระวังการขายทำกำไรหุ้นกลุ่มนี้ โดยเฉพาะหลังการขึ้น XD ของหุ้นธนาคารขนาดใหญ่อาจมีการขายทำกำไรของนักลงทุนระยะกลาง (3) ปลายเดือน การประกาศตัวเลขส่งออกไทยเดือนมี.ค. หากยังคงติดลบต่อเนื่อง จะส่งผลต่อคาดการณ์เชิงลบต่อการฟื้นตัวของ GDP และกำไรบริษัทจดทะเบียน (4) ราคาน้ำมันดิบ Brent หากยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่า US$60 ต่อบาร์เรล จะคงกดดันจิตวิทยาการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยความไม่สงบในเยเมนเป็นปัจจัยหนุนทิศทางราคาน้ำมันดิบเพียงระยะสั้น และ (5) ทิศทางกระแสเงินต่างชาติ หากยังอยู่ในฝั่งซื้อสุทธิ รวมถึงเงินบาทมีทิศทางแข็งค่าขึ้นจะบ่งบอกเงินไหลเข้าจะสนับสนุนจิตวิทยาการลงทุนและหากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรยังคงปรับลดลงจะเป็นบวกต่อ SET
กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้

• สำหรับการลงทุนระยะสั้น ชะลอการลงทุน หรือหากรักความเสี่ยงหาจังหวะเก็งกำไรตามกรอบเทคนิค 1460-1560 จุด โดยเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันเป็นจุดพิจารณาเข้าลงทุน (ล่าสุดอยู่ที่ 1520 จุด แต่จะมีการปรับขึ้นลงตามดัชนีรายวัน) ปิดเหนือบริเวณนี้ได้จะเกิดสัญญาณซื้อระยะสั้น แนะนำ กลุ่มนำตลาด Laggard Play (PTT PTTEP TUF CPF PTTGC DTAC CPALL CPN)

• สำหรับการลงทุนระยะปานกลาง-ยาว เน้นการถือครองหุ้นต่อยังไม่สะสมหุ้นเพิ่ม เรามองจุดสะสมหุ้นบริเวณ 1445 จุดลงมา