ท่าอากาศยานเชียงใหม่-ภูเก็ตเตรียมรองรับผู้โดยสารขยายตัว

 ท่าอากาศยานเชียงใหม่-ภูเก็ตเตรียมรองรับผู้โดยสารขยายตัว

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ปรับแผนเตรียมการรองรับจำนวนผู้โดยสารปี 58 เต็มพิกัด 8 ล้านคน ด้านการท่าฯภูเก็ตเผยรองรับผู้โดยสารต่างชาติ 70%

นาวาอากาศเอกวิสูธ จันทนา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า บริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัดมหาชนได้มีการกำหนด ให้ท่าอากาศยานเชียงใหม่เป็น “GATEWAY TO LANNA HERITAGE ”หรือ “ประตูสู่วัฒนธรรมล้านนา”เพื่อเป็นประตูหลักและเป็นตัวเลือกแรกสู่ภูมิภาคล้านนาทางภาคเหนือของประเทศไทย โดยได้มีการสร้างบรรยากาศการเอาใจใส่และให้ความสำคัญต่อนักท่องเที่ยวเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงประสบการณ์อย่างเต็มรูปแบบที่หลากหลาย รวมไปถึง ประวัติศาสตร์ที่สวยงามและยาวนานของจังหวัดเชียงใหม่ โดย ทางท่าอากาศยานได้มีการดำเนินการปรับปรุงทุกส่วนของท่าอากาศยานเพื่อเตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา อีกทั้งจะเป็นการเตรียมความพร้อมเมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

สำหรับท่าอากาศยานเชียงใหม่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ชุมชนที่จะทำการขยายพื้นที่ค่อนข้างจะลำบากซึ่งปัจจุบันสามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้ประมาณ 8 ล้านคน และคาดว่า ในปี 2558 คาดว่าจะมีผู้โดยสารเข้ามายังท่าอากาศายานเชียงใหม่ถึง 8 ล้านคนเต็มพิกัดแต่ก็สามารถที่จะบริหารจัดการได้ สำหรับผู้โดยสารที่จะเข้ามาจัดเป็นผู้โดยสารภายในประเทศจำนวนร้อยละ 70 และผู้โดยสารระหว่างประเทศร้อยละ 30 จึงทำให้มีการเตรียมการวางแผนรองรับคือ ได้มีการเตรียมการขยายลานจอดเครื่องบินเพิ่มอีก 2 หลุมจอด ซึ่งสามารถรองรับเครื่องบินลำใหญ่เพิ่มได้อีกจำนวน 1 ลำ หรือเครื่องบินลำเล็กจอดได้จำนวน 2 ลำซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญให้มีการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมากขึ้นและการขึ้น-ลง ของเครื่องคล่องตัวขึ้น

ขณะนี้ได้การเตรียมการขยายพื้นที่อาคารขาออกของผู้โดยสารภายในประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกสบายของผู้โดยสารภายในประเทศที่มีถึง ร้อยละ 70 โดยจะขยายพื้นที่กว้างมาคลอบคลุมถึงห้องรับรองวีไอพีทั้งหมด รวมถึงขยายพื้นที่ขาเข้าระหว่างประเทศที่จะมีการขยับเค้าเตอร์เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง มาอยู่ที่บริเวณเคาเตอร์เช็คอินแทน เพื่อเพิ่มพื้นที่ขาเข้าได้มากขึ้น ที่สำคัญในส่วนของบริเวณลานจอดรถยนต์ที่จะมีการขยายพื้นที่จอดรถเพิ่มขึ้นไปที่บริเวณด้านหลังร้านอาหารแก้วปลาสด ซึ่งจะสามารถรองรับได้จำนวนรถยนต์ได้อีกประมาณ 300 คัน

สำหรับการปรับเส้นทางการสัญจรทางเข้าออกท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ปรับให้สามารถเดินรถได้ทางเดียว( one way) เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการสัญจรให้การจราจรของผู้มาใช้บริการท่าอากาศยานดีขึ้น ลดปัญหารถติด ลดเวลาการเดินทางมายังสนามบินได้มาก แต่อาจมีผลกระทบกับผู้ที่พักอาศัยในบริเวณนั้นเล็กน้อย ที่ต้องมีการขับรถอ้อม แต่เมื่อเทียบกับการปรับเป็นการสัญจรแบบ two way จะทำให้การสัญจรลำบากมาก ซึ่งจากการประเมินแล้วพบว่าถ้าเปลี่ยนเป็นการสัญจรแบบ two way ผู้โดยสารต้องออกเดินทางมายังสนามบินล่วงหน้าหลายชั่วโมงเลยทีเดียว การเตรียมแผนการปรับปรุงพัฒนาดังกล่าวอันจะเป็นการส่งผลเตรียมการรองรับจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

"สำหรับการให้บริการการบิน ปัจจุบันท่าอากาศยานเชียงใหม่เปิดทำการบินกว่า 24 เที่ยวบินต่อชั่วโมงผู้โดยสารร้อยละ70 ของท่าอากาศยานเชียงใหม่เป็นผู้โดยสารเที่ยวบินภายในประเทศ ประมาณ 5 ล้านคนต่อหนึ่งปี โดยท่าอากาศยานมีรายได้ร้อยละ60จากการเก็บค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน(PSC) โดยจะเก็บค่าธรรมเนียมของแต่ละสายการบินคิดจากจำนวนผู้โดยสารเป็นรายคน ซึ่งเที่ยวบินภายในประเทศจะเก็บคนละ 100 บาท และเที่ยวบินระหว่างประเทศจะจัดเก็บคนละ 700 บาทต่อคนซึ่งค่า PSC ดังกล่าวถูกรวมอย่ในตั๋วเครื่องบินอยู่แล้ว"นาวาอากาศเอก วิสูธ กล่าว

ด้าน นางมนฤดี เกตุพันธุ์ รักษาการ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับท่าอากาศยานภูเก็ต จะเป็น “GATEWAY TO THE ANDAMAN” หรือ “ประตูสู่อันดามัน”เพื่อเป็นประตูหลักสู่แหล่งท่องเที่ยวชายหาดที่มีความสวยงามด้วยการให้บริการด้วยรอยยิ้มและหัวใจที่อบอุ่นของคนไทยถือว่าเป็นจุดหมายปลายทาง“Premium” ที่เต็มไปด้วยบรรดา ร้านค้าค้าขายปลีกสุดหรู และร้านอาหารระดับโลกด้วยการบริการชั้นเยี่ยมต่างๆ ทำให้ทางท่าอากาศยานภูเก็ตได้มีการปรับปรุงให้สิ่งอำนวยควายสะดวกต่างๆให้มีความเหมาะสมพร้อมต้อนรับผู้โดยสารทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

ขณะนี้ท่าอากาศยานอยู่ในระหว่างการก่อสร้างลานจอดรถและอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงอาคารเดิมแล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 50เนื่องจากท่าอากาศยานภเก็ต มีจำนวนผ้โดยสารระหว่างประเทศเข้ามากว่าร้อยละ 70 คาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนการในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2559 และหลังจากนั้นจะมีการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังเดิมให้เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จตามกำหนดการวันที่ 9 มกราคม 2560 สำหรับทั้งสองอาคารนี้จะสามารถขยายการรองรับผู้โดยสารปีละ 12 ล้านคน การก่อสร้างและปรับปรุงอาคารทั้งหมดใช้งบประมาณมูลค่ารวมทั้งหมด 5,700 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin)ของท่าอากาศยานภูเก็ตในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีกำไรสูงสุดของประเทศ

สำหรับท่าอากาศยานภูเก็ตให้บริการ 24 ชั่วโมง ทำการบิน 200 เที่ยวบินต่อหนึ่งวัน เป็นท่าอากาศยานที่มีการขนส่งสินค้าและการเข้ามาของผู้โดยสารเป็นอันดับสามของประเทศไทย ปัจจุบันทำหน้าที่รอง สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้ทั้งหมด 11.5 ล้านคนต่อหนึ่งปี ทำให้ท่าอากาศยานภูเก็ตไม่เคยหยุดหนิ่งต่อการพัฒนาศักยภาพในการให้บริการ จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆควบคู่กับการรักษาความปลอดภัยตามมาตราฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศที่เป็นมตราฐานสูงสุดของการรักษาความปลอดภัยของการบินพาณิชย์ แต่ก็มีปัญหาในเรื่องของจำนวนพื้นที่ที่ปัจจุบันท่าอากาศยานภูเก็ตมีเพียงรันเวย์เดียวซึ่งมีปัญหาข้อจำกัดในเรื่องของเนื้อที่ที่มีเพียง 1,300 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่น้อยไม่สามารถขยายพื้นที่รันเวย์ได้เนื่องจากมีพื้นที่ติดกับทะเลและภูเขา ขณะที่อัตราการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารมีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง 4-5%ต่อหนึ่งปี