นักวิเคราะห์ชี้ถึงเวลาสิงคโปร์ฟังเสียงปชช.

นักวิเคราะห์ชี้ถึงเวลาสิงคโปร์ฟังเสียงปชช.

บทวิเคราะห์จากสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า นักวิเคราะห์ชี้ถึงเวลาสิงคโปร์ต้องฟังเสียงประชาชน

บทวิเคราะห์จากสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า หากนาย ลี กวนยู คือวันวานของสิงคโปร์ การจากไปของรัฐบุรุษผู้นี้ ย่อมนำมาซึ่งคำถามที่ว่า ผู้นำรุ่นต่อไปจะแปลงโฉมแม่พิมพ์ที่หล่อหลอมให้ประเทศนี้แปรสภาพจากรัฐเกาะเล็กๆ กลายเป็นดินแดนแห่งความมั่งคั่งหรือไม่

แม้นายลี จะวางมือจากตำแหน่งผู้นำประเทศมานานปี แต่บุตรชายของเขาคือ นายกรัฐมนตรีลี เซียงลุง ยังคงเป็นผู้สืบทอดรูปแบบการบริหารประเทศ ซึ่งยึดมั่นเรื่องตลาดเสรีที่อิงกับประสิทธิภาพ อัตราภาษีต่ำ การปราบปรามคอร์รัปชั่นอย่างเข้มงวด และการต่อต้านระบอบรัฐสวัสดิการ ที่สำคัญ นายกฯลี เดินตามบิดาคือยังคงปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี และใช้กฎหมายการหมิ่นประมาทเพื่อปิดปากผู้วิจารณ์และฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม นายกฯลี ประกาศว่า จะส่งมอบไม้ต่อให้แก่ทายาททางการเมืองคนต่อไปในปี 2563 และการคาดเดาว่าทายาทผู้นี้จะเป็นใคร ก็แพร่สะพัดมากขึ้น ตั้งแต่ที่เขาเข้ารับการรักษามะเร็งต่อมลูกหมากเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเมื่อประกอบกับการที่ความนิยมในพรรคพีเพิลส์ แอ็กชัน ปาร์ตี้ (พีเอพี) ที่ผูกขาดอำนาจในสิงคโปร์มาโดยตลอด เริ่มเสื่อมถอยลง จึงนำมาซึ่งความไม่แน่นอน อันเป็นสิ่งที่คนสิงคโปร์ไม่คุ้นเคย

แม้ไม่มีใครบ่งชี้ว่า หลักการเบื้องหลังความสำเร็จของสิงคโปร์กำลังจะถูกละทิ้ง แต่หลายคนมีความรู้สึกลึกๆ ในใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสิ้นลี กวนยู ว่ายุคสมัยเก่ากำลังจะสิ้นสุดลง และระบบเดิมจะ “ไม่ดำเนินต่อไป” อย่างที่เคยเป็น

กรรมการผู้จัดการโพลิทิคัล แอนด์ อิโคโนมิก ริสก์ คอนซัลแทนซี นายโรเบิร์ต บรอดฟุต ให้ความเห็นว่า สิงคโปร์ ต้องการกลยุทธ์ใหม่อีกครั้ง แต่จะไม่ใช่แบบที่ผ่านมา ที่พีเอพีเป็นผู้ตัดสินใจโดยพลการก่อนประกาศให้ประชาชนรับรู้และปฏิบัติตาม แต่ต่อไปรัฐบาลจะต้องคำนึงถึงประชาชนทุกภาคส่วนมากขึ้นกว่าเดิม