'โฆสิต'ประเมินจีดีพีปีนี้โตประมาณ3-4%

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ว่า อยู่ในภาวะการฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยคาดว่าเศรษฐกิจ หรือจีดีพี ในปีนี้จะขยายตัวอยู่ในระดับประมาณ 3-4% ซึ่งถือเป็นระดับที่ใช้ได้อยู่ เพราะเมื่อมองจากตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักๆ ทั้งการบริโภคภายในที่ชะลอลง ประชาชนระมัดระวังในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง อีกทั้งการดำเนินนโยบายประชานิยมในช่วงที่ผ่านมา ก็ยังถือเป็นอุปสรรคสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

ขณะที่การส่งออก ก็คงไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจในปีนี้ขยายตัวได้มากเช่นกัน โดยคาดว่าตัวเลขการส่งออกที่คาดว่าจะไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมานัก หลังจากราคาสินค้าเกษตรในประเทศยังคงตกต่ำ รวมไปถึงกำลังซื้อของโลกที่ลดลงซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก เพราะฉะนั้นก็จะเหลือตัวช่วย คือการเบิกจ่ายภาครัฐ ที่จะช่วยผลักดันการเติบโตได้บ้าง แต่ก็คาดว่าจะไม่มากนัก

"การใช้จ่ายและการลงทุนของรัฐบาล ซึ่งเป็นความหวังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้ ในส่วนของงบใช้จ่ายประจำนั้น ผมเชื่อว่ารัฐบาลใช้ได้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว ขณะที่งบลงทุนอาจจะยังมีปัญหาที่จะลงทุนไม่ได้เร็วนัก ยอมรับว่าเศรษฐกิจตอนนี้ ยังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว แต่จะหวังเศรษฐกิจลื่นไหล ซื้อง่าย ขายคล่อง คงไม่ได้ เพราะเรายังได้รับผลกระทบจากปัญหาที่ผ่านมาทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ รัฐบาลขณะนี้เลยทำได้แค่พยุงสถานการณ์ไปก่อนเพื่อรอเวลาให้เกิดการปรับตัวไปสู่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเท่านั้น ซึงเราคงจะหวังมากกว่านี้ยังไม่ได้ คนไทยก็ต้องทำความเข้าใจด้วย หวังมากกว่านี้จะผิดหวัง" นายโฆสิต กล่าว

นายโฆสิต กล่าวว่า แนวทางการฟื้นของเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ คือ การเพิ่มผลิตภาพ และเพิ่มมูลค่าของสินค้า ยกระดับของการผลิตและคุณภาพสินค้าของไทยให้ขยับขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ทั้งในส่วนของภาคเอกชนต้องเร่งเพิ่มประสิทธิภาพการผลต ลดค่าใช้จ่ายและสร้างสินค้าใหม่ๆที่ปราณีตขึ้นเพื่อช่วยหนุนการส่งออกในอนาคต รวมทั้งภาคการเกษตร ที่จะรอการช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องยกระดับตัวเองขึ้นมา ทั้งคุณภาพของสินค้าเกษตร และประสิทธิภาพการผลิต

เขากล่าวว่า ทุกข์ของประเทศไทยในขณะนี้ ไม่ได้อยู่ที่บริโภคน้อยเกินไป แต่มาจากการออมที่น้อยเกินไป ประชาชนยังออมไม่พอ อีกทั้งปัจจุบันนี้สังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คนอายุมากมีเพิ่มขึ้นขึ้น หากเน้นบริโภคเกินความจำเป็นพื้นฐานไปมาก แต่ขาดการออมก็จะทำให้อนาคตเราลำบาก

" ประชาชนคนไทยของเราตอนนี้มีปัญหาคือออมไม่พอ ซึ่งถือเป็นภัยมาก คนที่ดูแลนโยบายควรจะพิจารณาเรื่องนี้ด้วย บางทีเราอาจจะไม่ต้องการการโตเร็วมากๆ บริโภคมากๆ แต่กลับมาบริโภคเท่าที่จำเป็นและเก็บออมสำหรับใช้จ่ายในอนาคต เพราะผมมองว่า การออมไม่พอจะเป็นทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ของแผ่นดิน" นายโฆสิต กล่าว