แข้งไทยส่ง'มุ้ย'ยิงสิงคโปร์ ซิโก้ใช้ดาวรุ่งผสมตัวเก๋า

แข้งไทยส่ง'มุ้ย'ยิงสิงคโปร์  ซิโก้ใช้ดาวรุ่งผสมตัวเก๋า

แข้งไทย ส่ง "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ล่าตาข่าย สิงคโปร์ ในเกมอุ่นเครื่องวันที่ 26 มี.ค.นี้ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

เฮดโค้ชหวังเก็บชัยชนะซึ่งมีผลต่อการจัดอันดับโลกของฟีฟ่า และมีลุ้นที่ไทยจะได้อยู่โถ 2 ในการจับสลากฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

“ช้างศึก” ทีมชาติไทย มีโปรแกรมลงสนามอุ่นเครื่องกับ “ลอดช่อง” สิงคโปร์ ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา ในวันที่ 26 มี.ค.นี้ เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย เปิดเผยว่า นักเตะที่เพิ่งติดทีมชาติครั้งแรกอย่าง กรวิทย์ นามวิเศษ, รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก, วิทยา หมัดหลำ, เอกชัย สำเร และอนุวัติ น้อยชื่นพันธ์ จะได้ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องทั้ง 2 นัดแน่นอน เพราะเราอยากเห็นฟอร์มนักเตะเหล่านี้จึงเรียกตัวมา โดยการเจอสิงคโปร์ จะเน้นเกมรุกเพื่อเอาชัยชนะให้ได้ และสภาพความพร้อมของทีมถือว่านักเตะทุกคนสมบูรณ์ทุกตำแหน่ง

สำหรับ 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนามของทีมชาติไทย ในระบบ 4-3-3 ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ กองหลังจากขวา พุทธินันท์ วรรณศรี, สุทธินันท์ พุกหอม, ประทุม ชูทอง, ธีราทร บุญมาทัน กองกลาง วิทยา หมัดหลำ, ปกเกล้า อนันต์, ประกิต ดีพร้อม ริมเส้นขวา จักรพันธ์ พรใส ริมเส้นซ้าย เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ และกองหน้าตัวเป้า ธีรศิลป์ แดงดา โดยไทยเป็นทีมอันดับ 142 ของโลก อันดับ 3 อาเซียน

ด้านสิงคโปร์ ทีมอันดับ 153 ของโลก และอันดับ 5 ของอาเซียน ซึ่งเดินทางมาถึงประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. และเดินทางไป จ.นครราชสีมา ทันที ซึ่งเกมนี้ เบิร์นด์ สเตนจ์ เฮดโค้ชชาวเยอรมัน เรียกนักเตะชุดใหญ่มาติดทีมครบครัน นำโดย ฮัสซัน ซันนี นายทวารจากอาร์มี่ ยูไนเต็ด ของไทยพรีเมียร์ลีก, ซาฟวน บาฮารุดดิน กองหลังจากเมลเบิร์น ซิตี ทีมในเอลีก ออสเตรเลีย, ไบฮัคกี ไคซาน กองหลังลูกครึ่ง, ฮาริส ฮารุล กองกลางตัวตัดเกม, ชาริล อิสฮัค เพลย์เมกเกอร์กัปตันทีม และไครุล อัมรี ดาวยิงประจำทีม

สำหรับสถิติที่ทั้ง 2 ทีมเคยพบกันในเกมอย่างเป็นทางการ ปรากฏว่าเจอกัน 10 ครั้ง ไทย ชนะ 5 เสมอ 3 แพ้ 2 โดยเจอกันครั้งล่าสุดคือศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014 ไทย บุกชนะสิงคโปร์ 2-1 และเกมนี้ฟีฟ่าให้การรับรองซึ่งมีผลต่อการนับคะแนนเพื่อจัดอันดับโลกด้วย

ขณะเดียวกันการอุ่นเครื่องของไทย 2 นัด พบ สิงคโปร์ และพบ แคเมอรูน ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ มีผลต่อการจัดอันดับโลกของฟีฟ่า ซึ่งหลังจบการอุ่นเครื่องทั้ง 2 นัด ฟีฟ่า จะยึดเอาอันดับโลกเป็นตัววางสำหรับจัดโถจับสลากฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ซึ่งจากเดิมไทยอันดับ 21 ของเอเชีย มี 189 คะแนน ซึ่งหากชนะในการอุ่นเครื่องทั้ง 2 นัด จะมีคะแนนขยับเพิ่มเป็น 213 แต้ม และหากฟิลิปปินส์ ที่อยู่อันดับ 15 ของเอเชีย มี 221 แต้ม บุกไปพ่าย บาห์เรน ในเกมอุ่นเครื่อง จะทำให้แต้มของ ฟิลิปปินส์ เหลือ 193 คะแนน และไทยจะมีอันดับขึ้นไปอยู่ 1 ใน 16 ของเอเชียและจะได้อยู่โถที่ 2 แทนที่