กกต.ชี้เลือกตั้งระบบโอเพ่นลิสต์ นวัตกรรมใหม่

กกต.ชี้เลือกตั้งระบบโอเพ่นลิสต์ นวัตกรรมใหม่

"สมชัย"ชี้เลือกตั้งระบบโอเพ่นลิสต์ นวัตกรรมใหม่ที่ไทยคิดค้นขึ้น ทั่วโลกยังไม่มี เชื่อหลักการดี แต่ปฏิบัติมีปัญหา-ยุ่งยากมาก

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงการเลือกตั้งส.ส.บัญชีรายชื่อแบบเปิดหรือโอเพ่นลิสต์ ว่า ตนพยายามดูว่าในโลกนี้มีประเทศไหนทำรูปแบบนี้บ้าง เท่าที่สืบค้นดูพบว่าไม่มี ฉะนั้นถือว่าเป็นการคิดค้นใหม่สำหรับประเทศไทย เป็นนวัตกรรมใหม่ เพราะปกติแล้วระบบบัญชีรายชื่อเคยเห็นแต่การให้เลือกคน แต่ให้เลือกรายชื่อในบัญชีรายชื่ออีกครั้งยังไม่เคยเห็น ดังนั้นเมื่อคนไทยไปใช้สิทธิจะรับบัตร 2 ใบ และเลือก 3 อย่างในอนาคตอาจต้องเลือกมากกว่า 3 อย่างเพราะจะมีเรื่องการถอดถอนนักการเมืองเข้ามาด้วย ดังนั้นถ้าถามว่าจะทำให้ประชาชนเป็นภาระหรือการเลือกหลายๆอย่างคราวเดียวกันทำให้ไม่เหมาะสมหรือไม่ ตนคิดว่าเราต้องคิดข้ามไป ถ้าหากเสียงของประชาชนมีความหมายที่สุด ก็ให้ประชาชนตัดสินใจเลือกเรื่องต่างๆในวันเลือกตั้ง ถือเป็นแนวทางที่พอเป็นไปได้ในประเทศไทย  

นายสมชัย กล่าวต่อว่า โดยหลักการโอเพ่นลิสต์ถือว่าเป็นหลักการที่ดีเพิ่มอำนาจให้ประชาชนในการเลือกคนในบัญชีรายชื่อได้เอง เข้าใจว่ากมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญมองจากปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตคือการจัดลำดับบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองไม่ได้จัดตามความรู้ความสามารถ แต่เป็นการจัดตามอำนาจอิทธิพลเงิน เป็นญาติหัวหน้าพรรคหรือบทบาทความสำคัญที่มีผลต่อหัวหน้าพรรคที่คิดจะเลือกใครก็จับใส่ได้ ไม่เกรงใจประชาชนบางครั้งไม่ได้คนที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง สาเหตุทำโอเพ่นลิสต์คงมาจากสิ่งนี้เป็นหลัก ดังนั้นการทำให้ประชาชนมีโอกาสเลือกลำดับบัญชีรายชื่อเอง คือการเพิ่มอำนาจในประชาชน นี่คือหลักการ แต่จุดอ่อนคือประชาชนจะรู้หรือไม่ว่าในบัญชีรายชื่อคนไหนดี คนไหนน่าเลือก ซึ่งพรรคการเมืองต้องแก้เองว่าทำอย่างไร จึงจะคัดคนที่ประชาชนรู้จัก มีประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ เป็นที่ยอมรับ

"ต้องยอมรับว่าถ้าจัดแบบโอเพ่นลิสต์ก็ทำให้เกิดปัญหากับกกต.ในเรื่องการจัดรูปแบบการเลือกตั้ง การนับคะแนน ในทางเทคนิคถ้ากมธ.ยกร่างฯ ยืนยันใช้โอเพ่นลิสต์ เป็นหลักการดี แต่ทางเทคนิคยุ่งยาก แต่อยู่ในวิสัยที่จัดการได้ต้องยอมรับว่าจะเกิดปัญหาเกิดขึ้น ส่วนการนับคะแนนต้องเพิ่มกระบวนการนับมากขึ้น จากเดิมนับ2 อย่าง ก็ต้องไปนับ 3 อย่าง เท่ากับว่าเราจำเป็นต้องมีเวลาให้กกต.ในการนับคะแนนมากขึ้นกว่าเดิม อาจทำให้การนับคะแนนล่าช้าไปอีกเป็นวันสองวัน และทราบมาว่าการนับคะแนนครั้งใหม่จะใช้แบบรวมกันไม่ใช่นับที่หน่วย ดังนั้นการได้มาซึ่งผลการเลือกตั้งให้ทำใจเผื่อไว้ 2-3วันกว่าการนับคะแนนจะเสร็จสิ้นลงอย่างไรตามถ้าหากดำเนินการก็เป็นหลักการดี แต่ในทางปฏิบัติมีปัญหาจึงอยากให้กมธ.ยกร่างฯคิดให้ทะลุว่าถ้าจะดำเนินการบัตรเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร การนับคะแนนเป็นอย่างไร แต่ทุกอย่างกกต.ทำให้ได้ไม่มีปัญหา" นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย ยังกล่าวอีกว่า ข้อเสนอเรื่องให้คณะกรรมการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง(กจต.)เป็นผู้จัดการเลือกตั้งแทนกกต.นั้นไม่รู้ว่าคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญจะมีการทบทวนหรือไม่ ก็อยากให้คิดดีๆ ว่า การเลือกตั้งหลังจากนี้จะมีรัฐบาลที่มาจากนักการเมืองเข้ามากำกับดูแลกระทรวงต่างๆ และเมื่อ กจต.มาจากการแต่งตั้งของปลัดกระทรวงนั้นจะมีการแทรกแซงจากนักการเมืองเพื่อให้มีการเอื้อประโยชน์ในผลการเลือกตั้งหรือไม่ แต่หากมั่นใจว่าการให้ กจต.จัดการเลือกตั้งจะไม่ถูกแทรกแซงก็ดำเนินการได้ แต่หากเกิดการแทรกแซงและทำให้เกิดผลเสียขึ้นคนที่ออกแบบก็ต้องรับผิดชอบ