เกาหลีใต้เตรียมออกหมายจับคนร้ายใช้มีดกรีดหน้าทูตมะกัน

ตำรวจเกาหลีใต้เผยจะออกหมายจับคนร้ายที่ใช้มีดกรีดหน้าทูตสหรัฐในข้อหาพยายามฆ่า ขณะที่แพทย์ระบุทูตมีอาการดีขึ้นหลังเย็บแผลที่หน้ากว่า 80 เข็ม นัดตัดไหมต้นสัปดาห์หน้า

ตำรวจชุดสอบสวนแถลงวันนี้เตรียมออกหมายจับนายคิม คี-จอง วัย 55 ปีคนร้ายที่ก่อเหตุใช้มีดกรีดหน้า และข้อมือนายมาร์ก ลิพเพิร์ท เอกอัครราชทูตสหรัฐที่ศูนย์ศิลปะการแสดงเซจงในกรุงโซลเมื่อวาน โดยจะตั้งข้อหาพยายามฆ่าและข้อหาทำร้ายนักการทูตต่างชาติ และแม้นายคิมให้การว่าไม่ได้มีเจตนาสังหาร แต่การใช้มีดกรีดหลายแผล รวมถึงแผลยาวที่ใบหน้าทำให้พอสรุปได้ว่าเขามีเจตนา นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบด้วยว่าเขาละเมิดกฎหมายความมั่นคง ที่ห้ามพูดหรือเขียนเนื้อหาส่งเสริมแนวคิดของเกาหลีเหนือด้วยหรือไม่ ซึ่งข้อหานี้มีโทษจำคุกถึง 7 ปี

นายคิมถูกระบุว่า มีแนวคิดสนับสนุนเกาหลีเหนือและกระบวนการรวมชาติ และเคยไปเกาหลีเหนือถึง 8 ครั้ง เขาคิดว่าสหรัฐเป็นอุปสรรคของกระบวนการรวมชาติ และในวันก่อเหตุเขาตะโกนต่อต้านการซ้อมรบร่วม ระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐที่เริ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์ด้วย

ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักและสำนักงานของเขาในกรุงโซล พร้อมทั้งยึดเอกสารและฮาร์ดไดรฟ์ของคอมพิวเตอร์ไปด้วย หลักฐานเหล่านี้จะช่วยให้ทราบว่าเขาวางแผงก่อเหตุได้อย่างไรและมีเหตูจูงใจอะไร ขณะที่นายคิมบอกว่าเขาก่อเหตุโดยลำพัง

ขณะเดียวกันแพทย์แถลงวันนี้ว่า ทูตสหรัฐมีอาการดีขึ้นแล้วและคาดว่าจะสามารถตัดไหมที่แผลบนแก้มขวาที่ต้องเย็บถึง 80 เข็มได้ในวันจันทร์หรืออังคาร จากนั้นจะสังเกตอาการอีก 1-2 วันก่อนตัดสินใจว่าจะให้ออกจากโรงพยาบาลได้หรือไม่ แพทย์ระบุว่าแผลที่แก้มขวาไม่ได้ทำลายเส้นประสาท และทูตไม่ค่อยเจ็บแผลที่ใบหน้าแล้ว แต่บริเวณแขนซ้ายและนิ้วมือจะยังเจ็บต่อไปอีก 2-3 วัน โดยเส้นประสาทที่นิ้วก้อยถูกทำลายคาดว่าจะหายเป็นปกติภายใน 6 เดือน

ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐยืนยันความสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตรกับเกาหลีใต้จะยังคงแน่นแฟ้นต่อไป และจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากเหตุรุนแรงที่ไร้เหตุผล ขณะที่นายจิม ลิพเพิร์ท พ่อของทูตบอกว่า รู้สึกตกใจเมื่อทราบข่าว และบอกด้วยว่าลูกชายไม่เคยเจ็บตัวเลยตอนอยู่ฝ่ายข่าวกรองของหน่วยซีลที่ไปร่วมสงครามในอัฟกานิสถานและอิรัก