เอปสัน ตั้งเป้าปีนี้โต15% บริษัทแม่เทงบลงทุนเพิ่ม

เอปสัน ตั้งเป้าปีนี้โต15% บริษัทแม่เทงบลงทุนเพิ่ม

เอปสันเปิดแผนยึดเบอร์ 1 ตลาดเครื่องพิมพ์ วางหมากปี 58 พาเหรดสินค้าใหม่ทุกกลุ่มเบุกหนักไทย-อินโดจีน ตั้งเป้ารายได้รวมโตอีก 15%

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจปี 2558 ให้ความสำคัญกับ 3 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย การทำตลาดสินค้าเชิงมูลค่าจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าแบบไร้พรมแดนทั้งต่างจังหวัดและต่างประเทศ รวมถึงเพิ่มความชื่นชอบในแบรนด์
ทั้งนี้ ชูจุดแข็งต้นทุนใช้งานไม่สูง ทว่ามีฟังก์ชั่นครบ คงทน โดยสินค้าไฮไลต์สำหรับอิงค์เจ็ท เน้นตลาดระดับกลางถึงบนที่มีฟีเจอร์ ฟังก์ชั่นตอบสนองความต้องการใช้งานระดับสูงกระทั่งธุรกิจ


ด้านพรินเตอร์สำหรับธุรกิจ รองรับเทรนด์โมบิลิตี้ บุกเบิกตลาดเครื่องถ่ายเอกสารและเครื่องพิมพ์ฉลากความเร็วสูง ส่วนโปรเจ็คเตอร์ นำรุ่นไฮเอนด์ ความสว่างสูงกว่า 10,000 ลูเมนส์ มีฟีเจอร์ใหม่ๆ รูปแบบอินเทอร์แอคทีฟเข้ามาเสริม ขณะที่เครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์ จะมีสินค้าใหม่ที่สามารถพิมพ์งานได้ดีขึ้นจำนวนมากขึ้นกว่าเดิมเข้ามา


เขากล่าวว่า แนวทางการทำตลาดต่างประเทศที่อยู่ภายใต้การดูแลของเอปสัน ประเทศไทย เวียดนาม พม่า กัมพูชา ลาว และปากีสถาน สานต่อกลยุทธ์มองเป็นตลาดใหญ่ตลาดเดียว


ขณะเดียวกัน ใช้ความได้เปรียบประเทศไทยในฐานะฮับของภูมิภาคกระจายสินค้าออกไป เชื่อว่าโอกาสมีอยู่สูงมากเนื่องจากการใช้ไอทียังน้อย การขนส่งเริ่มสะดวกจากโครงการ ระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ทั้งเมื่อเปิดเออีซียังเอื้อให้ภาษีนำเข้าลดลง


นอกจากนี้ ด้วยโอกาสก้าวสู่ปีที่ 25 การก่อตั้งเอปสันไทยบริษัทแม่ได้อนุมัติงบการลงทุนมาให้มากขึ้นหลักๆ จะนำไปใช้จัดทำเลิร์นนิ่งเซ็นเตอร์ สมาร์ทคลาสรูม และอื่นๆ กิจกรรมการตลาดเพิ่มน้ำหนักออนไลน์ และกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ทดลองใช้จริง


อย่างไรก็ตาม ตลาดไอทีไทยน่าจะผ่านจุดต่ำสุดและกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง เฉพาะพรินเตอร์คาดว่าจะเติบโตได้ 3-5% จากปี 2557 ที่ตกราว 5-10%
เขาประเมินด้วยว่า พฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนไป จากเดิมนิยมบริโภคแต่สินค้าที่ราคาถูก ขณะนี้เริ่มมีความเข้าใจและมองความคุ้มค่าการลงทุนมากขึ้น
ด้วยภาวะตลาดดังกล่าว รวมถึงมีปัจจัยบวกที่รัฐบาลเร่งผลักดันนโยบายดิจิทัลอีโคโนมีบริษัทตั้งเป้าว่าจะเติบโตจากปีก่อนหน้าอีก 15% สัดส่วนจากตลาดองค์กร 55% คอนซูเมอร์ 45% ตลาดต่างประเทศโตกว่า 25%


นายยรรยง เผยว่า ผลประกอบการปี 2557 เมื่อเทียบกับปี 2556 รวมทั้งภูมิภาคอินโดจีนเติบโต 17% เฉพาะประเทศไทยโต 15% ปัจจัยหลักมาจากสถานการณ์การเมืองที่นิ่งซึ่งส่งผลให้การลงทุนภาครัฐและเอกชนเริ่มกลับคืนมา ขณะที่สัดส่วนรายได้ไทย 83% ต่างประเทศ 17%


"แม้ตลาดรวมไอทีตกต่ำลงแต่เอปสันยังทำได้ดี ปัจจัยสำคัญเนื่องจากมีสินค้าที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ดี"


สำหรับกลุ่มสินค้าที่เติบโตสูงที่สุด คือ โปรเจ็คเตอร์ 28% จากการทำตลาดหลายเซ็กเมนท์ โดยเฉพาะสถาบันการศึกษา เอเยนซี่โฆษณา ออการ์ไนเซอร์ ขณะนี้ยังเป็นรายเดียวที่มีโปร เจ็คเตอร์มากที่สุดกว่า 70 รุ่น ครองอันดับ 1 ด้วยส่วนเพิ่มการตลาด 35% เดิม 25%


นอกจากนี้ กลุ่มอิงค์เจ็ทพรินเตอร์เติบโตได้ 25% สวนทางตลาดรวม จากแอลซีรีส์ การบุกตลาดใหม่ๆ ต่างจังหวัด พร้อมกินส่วนแบ่งการตลาดจากคู่แข่ง ครองอันดับ 1 ส่วนแบ่ง 36% เครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์โต 20% จากการบุกตลาดเฉพาะทาง


นายฮิโรกิ ยามาโมโตะ ผู้อำนวยการ เอปสัน เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ไทยเป็นตลาดสำคัญซึ่งบริษัทแม่เอปสันยังคงเชื่อมั่น ที่ผ่านมาผ่านทั้งเหตุการณ์ทางการเมือง และภัยธรรมชาติ ทว่าสามารถกลับมาเป็นปกติและดีกว่าเดิม ขอยืนยันว่าต่อไปยังมีแผนเข้ามาลงต่อ ไม่มีการเปลี่ยนนโยบาย
สำหรับการเปิดเออีซี ได้เริ่มลงทุน พร้อมตั้งไทยเป็นศูนย์กลาง ขณะนี้เชื่อว่ามีความพร้อมเต็มที่เมื่อตลาดเปิด ทั้งจากนี้ยังพร้อมสนับสนุน ไม่ยกเลิกการลงทุนแม้เศรษฐกิจขาลงเพียงแต่อาจมีการควบคุมค่าใช้จ่าย


นายมาซารุ คาตากิริ รองผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจ บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น กล่าวเสริมว่า กลยุทธ์ระดับโลกเอปสันมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ 4 กลุ่มหลัก ประกอบด้วยการพิมพ์ การสื่อสารทางภาพ คุณภาพชีวิต และ การผลิต ที่ผ่านมาแต่ละวันบริษัทใช้งบการลงทุนสำหรับวิจัยและพัฒนา 1.3 ล้านดอลลาร์


ส่วนการวางตลาดสินค้าใหม่ๆ เช่น แวร์เอเบิลดีไวซ์ ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละตลาด เบื้องต้นหลังจากวางตลาดในประเทศแล้วจะเริ่มขยายไปยังสหรัฐ ยุโรป ตามลำดับ