'อีสท์วอเตอร์'ฉวยดอกเบี้ยต่ำเล็งออกบอนด์

'อีสท์วอเตอร์'ฉวยดอกเบี้ยต่ำเล็งออกบอนด์

"อีสท์วอเตอร์" ฉวยจังหวะดอกเบี้ยต่ำ เร่งลดต้นทุนการเงิน เตรียมสรุปแผนออกบอนด์ 5,000 ล้าน ภายในไตรมาส 2 นี้

นายวันชัย หล่อวัฒนตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EASTW กล่าวว่า ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ระดับต่ำ บริษัทเน้นการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงิน โดยก่อนหน้านี้ได้รีไฟแนนซ์หนี้ระยะยาว มูลค่า 2,800 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยลดลงเป็น 2.1% จากเดิมที่เคยมีต้นทุนดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.5%

ขณะเดียวกัน บริษัทมีหนี้จากการกู้เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการอีก 5,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.5% ในช่วง 3 ปีแรก จากนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ประมาณ 3.8% ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาวิธีการลดต้นทุนทางการเงินก้อนหนี้ อาจเป็นการออกบอนด์บางส่วน และรีไฟแนนซ์หนี้บางส่วน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 2/2558

“ในจังหวะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ระดับต่ำ บริษัทจะเน้นการบริหารต้นทุนการเงิน นอกจากนี้ยังมีการลดต้นทุนส่วนอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร เพราะธุรกิจบริษัทไม่สามารถปรับขึ้นราคาน้ำดิบหรือน้ำประปาได้อย่างเท่าทันต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง”

เขากล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมงบลงทุนราว 2.1 พันล้านบาท เพื่อลงทุนต่อเนื่องในโครงการที่ดำเนินการมาต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2557 ประกอบด้วย โครงการอ่างเก็บน้ำทับมา มูลค่าลงทุน 1,300 ล้านบาท, โครงการสร้างท่อส่งน้ำ –หนองปลาไหล มูลค่า 1,420 ล้านบาท และโครงการสร้างท่อส่งน้ำชลบุรี 410 ล้านบาท โครงการท่อประปาพิษณุโลก 50 ล้านบาทและโครงการน้ำเย็น 17 ล้านบาท ทั้งนี้ แหล่งเงินทุนมาจากการกู้สถาบันการเงิน

ปัจจุบัน บริษัทมีกำลังการผลิต 339.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 282 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 80% และจากโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำดังกล่าว จะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 429.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปี 2559 และเป็น 476.5 ล้านลูกบาศก์เมตรในปี 2560

“ยืนยันว่า ในหน้าแล้งปีนี้ บริษัทจะสามารถบริหารจัดการน้ำให้กับลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมได้ เพราะโครงการประแส-หนองปลาไหล ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2559 แต่จะเร่งให้สามารถดำเนินการได้ในปลายปี 2558 เพื่อให้เริ่มจ่ายน้ำได้”

เขากล่าวอีกว่า นโยบายการปรับขึ้นราคาน้ำ สำหรับส่วนของผู้บริโภค บริษัทปรับตามอัตราของการประปา แต่ในส่วนของลูกค้าอุตสาหกรรม จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต้นทุนการผลิตต่างๆ โดยในปีนี้ เชื่อว่าน่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นราคาน้ำ เพราะต้นทุนค่าไฟมีแนวโน้มที่จะปรับลดลง และการบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ที่น่าจะทำให้บริษัทมีประสิทธิภาพการทำกำไรได้”

ด้านผลประกอบการปี 2558 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 6% จากปี 2557 ที่มีรายได้รวมราว 4.3 พันล้านบาท เป็นไปตามความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์เศรษฐกิจที่เริ่มมีทิศทางดีขึ้นและความเชื่อมั่นของภาคเอกชนเริ่มกลับมา ประกอบกับได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง รวมถึงความชัดเจนของโครงการลงทุนภาครัฐ

ในขณะเดียวกันจะเห็นการทยอยลงทุนของธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในปีที่ผ่านมาด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการในภาคตะวันออกและภาคกลาง

นอกจากนั้น บริษัทมีแผนขยายการจำหน่ายน้ำประปาให้กับแหล่งชุมชนที่อยู่ใกล้ท่อส่งน้ำของบริษัท เพื่อเข้ามาเสริมรายได้ หลังการจำหน่ายน้ำดิบให้กับภาคอุตสาหกรรมอาจจะมีข้อจำกัดในบางช่วง โดยเฉพาะผู้ประกอบการภาคการผลิตเพื่อการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากภาพรวมการส่งออกหดตัวในช่วงที่ผ่านมา บริษัทจึงต้องมองหาแหล่งรายได้ใหม่ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้อย่างชัดเจนในปี 2559

สำหรับแผนการลงทุนในต่างประเทศ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการนำเสนอโครงการให้แก่รัฐบาลของพม่าจำนวน 3 โครงการ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 300 ล้านบาท/โครงการ คาดว่าภายในปีนี้จะเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 โครงการ พร้อมกันนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนด้านการให้บริการสาธารณูปโภคในลาว ในรูปแบบการเข้าถือหุ้นในบริษัทที่ได้รับสัมปทานไปแล้ว คาดว่าจะถือหุ้นในสัดส่วน 30% ใช้เงินลงทุนประมาณ 200-300 ล้านบาท