'ประยุทธ์'เล็งตั้งซูเปอร์บอร์ดการศึกษา

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปรารภในที่ประชุมครม.ถึงเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาว่ามีแนวความคิดที่จะตั้ง “ซูเปอร์บอร์ดการศึกษา” เพราะเห็นภาพทับซ้อนการสั่งการ มีปัญหาการจัดระบบด้านการศึกษาพอสมควร ดังนั้นเพื่อให้มีการจัดระบบระเบียบให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

 

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า แนวคิดดังกล่าวของนายกฯมาจากการเดินทางไปประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงที่กระทรวงศึกษาธิการ และปลัดกระทรวงได้สะท้อนปัญหาการทำงานของกระทรวงฯให้นายกฯได้รับทราบ นายกฯจึงมีแนวคิดที่จะบูรณาการงานด้านการศึกษาทั้งระบบที่มีหน่วยงาน 5 แท่ง ของกระทรวงเข้ามาทำงานร่วมกัน

 

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า นายกฯสั่งการโดยกำหนดเป้าหมายให้กระทรวงศึกษาธิการไปดำเนินการคือ 1.เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เมื่อเรียนจบป.1 ต้องอ่านออกเขียนได้ และมีมาตรการประเมินผลให้เป็นรูปธรรม 2.นักเรียนมัธยมต้นหรือปลาย ให้มีการเลือกวิชาเสริมที่เป็นวิชาชีพด้วย เพื่อให้วันข้างหน้าในการวางแผนอนาคต ไม่ใช่ว่าจบม.6แล้วมุ่งจะเข้ามหาวิทยาลัยอย่างเดียว เผื่อเบนเข็มไปสายอาชีพได้ด้วย หรือหากออกมาทำงานก็จะได้มีความรู้ทักษะได้ด้วย 3.ต้องมีความเชื่อมโยงระหว่างการศึกษากับการส่งเสริมวิชาชีพ ต้องจัดการเรียนให้ตรงกับตลาดแรงงานของชาติดูสายงานที่เป็นทีต้องการของตลาด

 

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า4.ระดับอุดมศึกษาให้เน้นการวิจัย เพื่อเชื่อมต่องานวิจัยกับภาคเอกชนและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งอาจจะมีข้อตกลงกับหน่วยงาน 5.ยกระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ ที่หลายประเทศใช้เป็นภาษาสากล แต่ประเทศที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษต้องให้ความสำคัญกับภาษาประเทศต้นทาง โดยให้มีเจ้าของภาษามาสอนเดือนละ1ครั้งหรือ2เดือนครั้งเพื่อให้ชินกับสำเนียงเจ้าของภาษา และ6.การผลิตครูให้มีความเข้มข้น เช่น มีคุรุทายาท หรือ ครูพันธุ์ใหม ที่ก็ต้องตอบโจท์การสอนได้แท้จริง หากอาชีพครูขาดแคลนก็ขอให้มีการเรียนการสอนสำหรับคนที่ไม่ได้เรียนด้านครูสัก 1 ปี เพื่อให้เขาไปประกอบอาชีพครู