ฝรั่งเศสช็อค!โจรฉก'พระมหามงกุฎ'

ฝรั่งเศสช็อค!โจรฉก'พระมหามงกุฎ'

ฝรั่งเศสช็อค! โจรฉก "พระมหามงกุฎ" กรมศิลป์ คาดมีใบสั่งเศรษฐีนำไปสะสม คุมเข้มพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศ

หลังเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อโจรบุกพิพิธภัณฑ์ห้องจีน ภายในพระราชวังฟงแตนโบล กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ช่วงกลางวันแสกๆ โจรกรรม พระมหามงกุฎ เครื่องมงคลราชบรรณาการ สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทูลเกล้าฯ ถวายแด่จักรพรรดินโปเลียนที่ 3แห่งฝรั่งเศส ร่วมกับ โบราณวัตถุอื่นๆไปอีก15 รายการ เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ได้รายงานเรื่องดังกล่าวต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว โดยนายกฯ ให้คอยติดตามเรื่องดังกล่าว ขณะเดียวกันก็รับรายงานจากนักวิชาการสำนักหอจดหมายเหตุ กรมศิลปากร ถึงโบราณวัตถุที่หายไปจากพิพิธภัณฑ์ห้องจีน โดยอ้างอิงจากเอกสารจดหมายเหตุ เย็บเล่ม ของกระทรวงการต่างประเทศ ฝรั่งเศส เล่ม2 ซึ่งได้ระบุว่า โบราณวัตถุที่หายไปนั้น เรียกว่า พระมหามงกุฎลงยา เป็นเครื่องมงคลบรรณาการที่ฝ่ายไทย มอบให้แก่จักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศส ส่วนพระมหาพิชัยมงกุฎ นั้น เป็นของพระมหากษัตริย์ ซึ่งได้เก็บรักษาไว้ที่พระบรมหาราชวัง

รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ได้โทรศัพท์สอบถามความคืบหน้ากรณีดังกล่าวจากนายอภิชาติ ชินวรรโณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยได้รับการชี้แจงว่า เรื่องโบราณวัตถุถูกโจรกรรม เป็นข่าวที่ได้รับความสนใจมากในฝรั่งเศส เพราะโดยทั่วไประบบรักษาความปลอดภัยในพิพิธภัณฑ์จะเข้มงวดและมีประสิทธิภาพมาก ขณะเดียวกัน ทางการฝรั่งเศสก็รู้สึกเป็นห่วงและตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และถือเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องเร่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบอย่างหนัก เพื่อตรวจสอบหาผู้กระทำความผิด

นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า การโจรกรรมพระมหามงกุฎ พร้อมด้วยโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์จีนครั้งนี้ เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ ซึ่งตนก็นึกไม่ถึง เพราะเหมือนถอดแบบมาจากภาพยนตร์ ซึ่งสามารถสันนิษฐานการโจรกรรมได้หลายสาเหตุ เมื่อพิจารณาตามหลักการและเหตุผลแล้ว เห็นว่า พระมหามงกุฎ เป็นโบราณวัตถุที่มีคุณค่าและอยู่ในพิพิธภัณฑ์ มีการขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุไว้แล้ว จึงยากที่จะนำมาซื้อขายทอดตลาด เพราะถือว่าผิดกฎหมาย ยกเว้นจะมีใบสั่งให้โจรกรรม หรือ อาจจะมีการนำไปขายในตลาดมืดอีกต่อหนึ่ง เพื่อเป็นของชื่นชมของพวกนักสะสม หรือเศรษฐี

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่เราก็ประมาทไม่ได้ ตนจึงกำชับให้นายสหภูมิ ภูมิธฤติรัฐ รองอธิบดีกรมศิลปากร ซึ่งกำกับดูแลสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั้ง44 แห่ง ทั่วประเทศ โดยในปี 2558 ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่ม อีกกว่า 100 ตัว ในจุดสำคัญภายในพิพิธภัณฑ์ โดยใช้งบประมาณ กว่า 17 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำห้องภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพื่อคอยดูแล ตรวจสอบ โดยเฉพาะการสอดส่องผู้ที่เข้ามาชมไม่ให้มีการซ่อนตัวอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ เพราะ มีหลายครั้งที่การโจรกรรมโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์เกิดจากการหลบซ่อนตัวของโจรในมุมอับต่างๆ ขณะที่ภายนอกพิพิธภัณฑ์ ก็ให้มีการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24ชั่วโมง