สิงห์เอสเตทเพิ่มทุน2.6พันล้าน

สิงห์เอสเตทเพิ่มทุน2.6พันล้าน

“สิงห์ เอสเตท” เตรียมเสนอผู้ถือหุ้น 22 เม.ย. ขอเพิ่มทุน 2.63 พันล้านบาท หวังใช้สวอปหุ้น “เนอวานา” 51%

คณะกรรมการบริษัท สิงห์ เอสเตท มีมติเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2558 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีก 2.63 พันล้านบาท จากเดิมทุนจดทะเบียน 4.71 พันล้านบาท รวมวงเงิน 7.34 พันล้านบาท

นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์เอสเตท (S) เปิดเผยว่า การออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 2.63 พันล้านหุ้น พาร์ 1 บาท เพื่อจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด เพื่อชำระราคาค่าหุ้นสามัญของเนอวานา 186.5 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น 800 ล้านหุ้น และรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท 1,600 ล้านหุ้น

บริษัทกำหนดสัดส่วนการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม สัดส่วน 6 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคา 3 บาท หรือคิดเป็นมูลค่า 2.4 พันล้านบาท และกำหนดสิทธิการได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิ ในอัตรา 2 หน่วยต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคา 15 บาท โดยกำหนดการใช้สิทธิครั้งแรกในปี 3 ปีข้างหน้า ซึ่งการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิม คาดจะดำเนินการแล้วเสร็จเดือนก.ค.2558

คณะกรรมการอนุมัติจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ได้แก่ 1.Good Prosper Holdings Limited (178,845,349 หุ้น)และ 2.Compile House Company Limited (7,664,443 หุ้น) ตามสัดส่วนหุ้นในเนอวานา ที่จะขายให้แก่บริษัทรวม 186,509,792 หุ้น พาร์ 1 บาท โดยจัดสรรที่ราคาหุ้นละ 9.50 บาท รวมเป็นมูลค่า 1,771,843,024 บาท

การจัดสรรดังกล่าว เกิดขึ้น เนื่องจากคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการลงทุนใน “บ.เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด” โดยจะซื้อหุ้นสามัญในเนอวานา 3,649,993 หุ้น พาร์ 100 บาท หรือคิดเป็น 51% ของหุ้นสามัญทั้งหมดของเนอวานา ในราคาหุ้นละ 485.44 บาท รวมมูลค่ารายการไม่เกิน 1,771,843,024 บาท จากผู้ถือหุ้นเดิม 2 ราย ได้แก่ 1.Good Prosper Holdings Limited และ (2) Compile House Company Limited และบริษัทจะชำระราคาค่าหุ้นดังกล่าว ด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ของบริษัท 186,509,792 หุ้น ในราคาหุ้นละ 9.50 บาท เพื่อชำระราคาค่าหุ้นสามัญดังกล่าว

นอกจากนี้ บริษัทจะเข้าทำรายการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในเนอวานาไม่เกิน 831,724 หุ้น โดยชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนเป็นเงิน ในราคาหุ้นละ 383.24 บาท รวมมูลค่ารายการไม่เกิน 318,749,906 บาท เมื่อรวมมูลค่าของรายการทั้งสองมีมูลค่าไม่เกิน 2,090,592,930 บาท รวมทั้งอนุมัติการเข้าลงนามในสัญญา Share Purchase and Share Subscription Agreement และสัญญาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในเนอวานา

“นี่เป็นการเพิ่มทุนครั้งแรกของบริษัท หลังจากที่เข้าเทคโอเวอร์บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งครั้งนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นยังไม่ได้ใส่เงินเข้ามาเลย การเพิ่มทุนครั้งนี้ จะเป็นการใส่เงินเข้ามาในบริษัทครั้งแรกของกลุ่มสิงห์ พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งบริษัทได้รับการยืนยันจากผู้ถือหุ้นใหญ่ว่าพร้อมจะใส่เงินเพิ่มทุน”

นายนริศ กล่าวว่า การลงทุนในเนอวานา เป็นการขยายฐาน และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ ทำให้กลุ่มบริษัทมีสินค้าที่สามารถตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าได้หลากหลาย ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านแนวราบ และโรงแรม ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดี และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว

ปีนี้บริษัทคาดการณ์รายได้ที่ 4,000 ล้านบาท ซึ่งสูงเป้าเดิมที่ 2,000 ล้านบาท เพราะบริษัทจะรับรู้รายได้จากการลงทุนในเนอวานาปีนี้ 2,000 ล้านบาท และเชื่อว่าปีนี้จะพลิกมีกำไรสุทธิ จากปีที่แล้วที่มีผลขาดทุนสุทธิ 106.8 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากอโศกพลาซ่า และโรงแรมพีพีวิลเลจ ที่เพิ่งเข้าซื้อเมื่อปลายปีที่ ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักสูง 97%

ส่วนแผนพัฒนาโครงการปีนี้ บริษัทจะพัฒนาโครงการใหม่ 2 โครงการ แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมบนถนนอโศก มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท เปิดขายในไตรมาส 2/2558 เริ่มก่อสร้างในไตรมาส 3 -4/2558 และโครงการแนวราบ บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม มูลค่า 4 พันล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการโรงแรมในประเทศ 3 แห่ง มูลค่ารวม 5-6 พันล้านบาท โดยทั้งหมดอยู่ในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว คาดได้ข้อสรุปอย่างน้อยในไตรมาส 2 ปีนี้ หากสามารถซื้อกิจการได้ตามแผน บริษัทจะขายสินทรัพย์โรงแรมเข้ากองรีทในปี 2559 แต่ต้องศึกษารายละเอียดการบันทึกรายได้จากสำนักงานก.ล.ต.ประกอบก่อน

“ช่วง 5 ปีนี้ คือปี 2558-2562 บริษัทวางแผนเช้าซื้อกิจการแต่ละปีจะมีธุรกิจโรงแรม 3 แห่ง อาคารสำนักงาน 2 แห่ง และ ศูนย์การค้า 2 แห่ง โดยช่วงแรกอาจเข้าไปร่วมทุน ทั้งนี้บริษัทตั้งงบลงทุนและงบซื้อที่ดินในช่วง 5 ปี จำนวน 1 แสนล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ในปี 2562 ที่ 2 หมื่นล้านบาท”

ภายใน 5 ปี โครงสร้างรายได้ของบริษัท จะแบ่งเป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 50% และรายได้จากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ 50% ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้ทางใดทางหนึ่ง และเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับการเติบโตของรายได้

ด้านนายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ปีนี้บริษัทจะเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการ รวมมูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท เป็นแนวราบ 2 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ซึ่งขณะนี้มีที่ดินพร้อมรองรับแล้ว จากที่ผ่านมาเปิดโครงการใหม่ปีละ 3 โครงการ

หลังจากนี้ บริษัท สิงห์ เอสเตท เข้ามาถือหุ้นเสร็จ บริษัทจะเพิ่มทุน 700 ล้านบาท เพื่อนำมาพัฒนาโครงการ ซึ่งสิงห์ เอสเตท จะลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น ส่วนแผนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ต้องเลื่อนออกไป เพราะบริษัทมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นผู้สนับสนุนด้านการเงินแล้ว