แนสแด็กปิดเหนือ 5,000 จุด

แนสแด็กปิดเหนือ 5,000 จุด

ดัชนีแนสแด็ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเหนือระดับ 5,000 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี ขณะดัชนีหุ้นอื่นๆ ยังรักษาระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไว้ได้

ดัชนีแนสแด็ก ซึ่งเป็นตลาดสำหรับจดทะเบียนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) ทะยานขึ้น 44.57 จุด หรือ 0.90% มาอยู่ที่ 5,008.10 จุด ปิดซื้อขายเหนือระดับ 5,000 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี และเป็นครั้งที่ 3 นับแต่มีการเปิดดัชนีตัวนี้ขึ้นมา สะท้อนถึงการใช้เวลาอันยาวนานสำหรับการฟื้นตัวของตลาด หลังเกิดภาวะฟองสบู่ดอท คอม แตก ในปี 2543

ขณะที่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ และเอส แอนด์ พี 500 ยังคงรักษาระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เอาไว้ได้เช่นกัน ในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นสหรัฐ ยังอยู่ในภาวะขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดาวโจนส์ ปรับขึ้น 155.93 จุด หรือ 0.86% มาอยู่ที่ 18,288.63 จุด ขณะที่ เอส แอนด์ พี 500 ขยับขึ้น 12.89 จุด หรือ 0.61% ปิดซื้อขายที่ 2,117.39 จุด

การทะยานขึ้นของตลาดได้แรงหนุนจากข่าวการควบรวมกิจการจำนวนหนึ่ง รวมถึง การทำข้อตกลงมูลค่า 16,700 ล้านดอลลาร์ ที่เอ็นพีเอ็กซ์ เซมิคอนดักเตอร์ เข้าซื้อกิจการฟรีสเกล เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งทั้ง 2 บริษัทนี้ ต่างจดทะเบียนอยู่ในดัชนีแนสแด็ก

ขณะที่ในส่วนของหุ้นยุโรปนั้น ตลาดมีการเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก ท่ามกลางความหวังว่า การดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือคิวอี ของกลุ่มยูโรโซน ที่มีกำหนดจะเปิดเผยรายละเอียดในสัปดาห์นี้ จะช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ดัชนีเอฟทีเอสอี 100 ในตลาดลอนดอน อังกฤษ ลดลงเล็กน้อย 0.09% มาอยู่ที่ 6,904.64 จุด หลังในช่วงเช้า ทะยานขึ้นไปถึง 6,974.26 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในการซื้อขายวันเดียว

ส่วนดัชนีแด็กซ์ 30 ตลาดแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี ทะยานขึ้นมา 0.08% มาอยู่ที่ 11,410.36 จุด และดัชนีแค็ก 40 ของฝรั่งเศส ร่วงลง 0.69% มาอยู่ที่ 4,917.32 จุด

น้ำมันร่วงต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันโลกปรับตัวลดลง จากความกังวลรอบใหม่ เกี่ยวกับการจัดหาที่ล้นตลาด

ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส ส่งมอบเดือนเมษายน ที่ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ลดลง 17 เซนต์ มาอยู่ที่ 49.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ส่งมอบเดือนเดียวกัน ที่ตลาดลอนดอน อังกฤษ ดิ่งลงถึง 3.04 ดอลลาร์ ปิดซื้อขายที่ 59.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นักวิเคราะห์บางราย มองว่า การร่วงลงอย่างหนักของราคาน้ำมันดิบเบรนท์นั้น เป็นผลมาจากการเทขายทำกำไรในตลาดมากกว่าปัจจัยอื่นๆ หลังเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ราคาพุ่งขึ้นไป 2.53 ดอลลาร์