'พระสุเทพ'ปัดตอบปมธรรมกาย ชี้ให้พระแก้ปัญหากันเอง

'พระสุเทพ'ปัดตอบปมธรรมกาย ชี้ให้พระแก้ปัญหากันเอง

"พระสุเทพ"ปัดตอบปม"ธรรมกาย" ชี้ให้พระแก้ปัญหากันเอง ลั่นบวชพระไม่ได้หวังตำแหน่งใหญ่โตทางศาสนา แนะอย่าโยง"กปปส."เอี่ยววงการสงฆ์

พระสุเทพ ปภากโร กล่าวถึง ปัญหาในวงการพระสงฆ์ขณะนี้ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของพระให้พระเขาจัดการกันเอง จะถูกจะผิด เป็นเรื่องที่พระจะต้องว่าไปตามกฎเกณฑ์กติกาของพระ พระราชบัญญัติของสงฆ์ ก็มีและมีกฎระเบียบกฎเกณฑ์ ที่ชัดเจนมาอยู่แล้ว อาตมาของเจริญพรว่า เรื่องนี้ญาติโยมอย่าได้กังวลมาก อย่าได้เอาเรื่องดังกล่าวมาเป็นเหตุให้เกิดความขัดเคืองใจ บาดหมางใจ ระหว่างชาวพุทธด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่มีผู้ออกมาเรียกร้องให้มีการคืนเงิน แก่ประชาชนที่เป็นเจ้าของเงิน เพราะเป็นการได้มาของทรัพย์ที่ไม่ควรนั้น พระสุเทพ ปภากโร กล่าวว่า ควรจะเป็นเรื่องของทางพระดำเนินการกันเอง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ทราบว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร การจะตอบอะไรก็จะกลายเป็นประเด็นอีก จะผิดจะถูกอย่างไร ให้ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ในที่นี้คือพระสงฆ์ เขาดำเนินการไปดีที่สุด

"อาตมาพูดแทน กปปส.ด้วยเลย เพราะเดี๋ยวจะมีใครมาโยงกปปส. จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของสงฆ์ เรายุ่งเกี่ยวเฉพาะเรื่องของบ้านเมือง เราต่อสู้มาเพื่อให้ประเทศไทยอยู่รอดปลอดภัย เราต่อสู้มาเพื่อที่จะหวังว่าจะได้มีการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ปฏิรูปประเทศให้ดีขึ้น ส่วนเรื่องของพระจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย"พระสุเทพ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่มีพระบางรูปออกมา เรียกร้องให้ปฏิรูปวงการพระสงฆ์ และศาสนาควบคู่ไปด้วย พระสุเทพ ปภากโร กล่าวว่า เป็นเรื่องของแต่ละท่าน ที่พูดมาก็พูดแทน กปปส.

ผู้สื่อข่างถามว่า มีบางคนออกมาโพสต์ข้อความว่า การบวชของท่านครั้งนี้ หวังถึงการเป็นพรเถระ ชั้นผู้ใหญ่ นั้น พระสุเทพ กล่าวว่า คนที่ออกมาพูด พูดด้วยอวิชา พูดด้วยความไม่รู้ และคนที่มาบวชพระ ไม่ใช่อยู่ๆจะได้เป็นพระเถระ ขึ้นมาได้ จะต้องมีกฎเกณฑ์ พระที่บวชใหม่มีพรรษาไม่ครบ 5 พรรษา ยังถือว่าเป็นพระนวก(นะ-วะ-กะ) หรือพระบวชใหม่ คนที่จะเป็นพระเถระได้ ต้องมีพรรษาสูงๆ อย่าไปกลัวว่า จะเป็นพระครู จะเป็นท่านเจ้าคุณ เรื่องแบบนี้ไม่ได้ตั้งกันง่ายๆ คณะสงฆ์ เขามีกฎเกณฑ์กติกาของเขา

"อาตมาไม่ได้บวชมาเพื่อให้ได้มีตำแหน่งในทางพระใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่อาตมาและพี่น้องเพื่อนฝูง เพื่อนร่วมอุดมการณ์ ได้ทำงานรับใช้ชาติบ้านเมืองมาพอสมควร เวลานี้เป็นโอกาสดี ที่มารับใช้ศาสนาก็เข้ามารับใช้วัดวาอาราม ใครจะวิจารณ์ อย่างไร ให้เขาวิจารณ์ไป ไม่สะดุ้งสะเทือน ไม่ได้ตอบโต้กับใครทั้งนั้น อาตมาไม่ทำอะไรให้เสียหายต่อศาสนา ทำหน้าที่ในฐานะทีเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง"พระสุเทพ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ท่านสามารถที่จะยืนยันการลาสิกขาบทได้หรือไม่ ว่าหากหมดโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายในหลวง พระสุเทพ ปภากโร กล่าวว่า โครงการนี้ ตั้งใจจะทำต่อเนื่องทั้งปี และเป็นได้ว่าอยากจะทำทุกปี ตลอดไป เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี และทำเพื่อถวายในหลวง การทำความดีถวายพระองค์ท่านฉบับชาวพุทธ ดีที่สุดคือการปฏิบัติธรรม ต้องการฟื้นฟูประเพณีการบวช เพราะในปัจจุบันคนไทยไม่นิยมการบวชเหมือนในอดีต เราพยายามฟื้นฟูในเรื่องนี้ เราจึงได้จัดตั้งกองทุนเพื่อการบรรพชา ส่วนการลาสิกขาบทเป็นคนละเรื่องกัน และแล้วแต่เหตุ แล้วแต่ปัจจัย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลก มีเหตุ มีปัจจัย อาตมาก็ต้องพิจารณาตามเหตุตามปัจจัยว่าจะบวชได้นานเท่าไหร่ จะลาสิกขาบทเมื่อไหร่นั้น เวลานี้ยังไม่คิด ขอทำหน้าที่ไปเรื่อยๆ

ชี้"ที่มา–วาระนายกฯ"ไม่ใช่เรื่องสำคัญ 

พระสุเทพ ปภากโร ยังกล่าวถึง ผลการพิจารณายกร่างรัฐธรรมนูญ ของสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.)ในหมวดว่าด้วยนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่กำหนดให้นายกรัฐมนตรีมาจากคนนอก และดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินกว่า 2 วาระไม่ได้ ว่า อย่ามีชีวิตอยู่ด้วยความกลัว ควรอยู่ด้วยความกล้า ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศ คือ 1.พวกมีกิเลสมาก หรือพวกอยากได้ในสิ่งที่ไม่ควรได้

พระสุเทพ ปภากโร กล่าวว่า 2.พวกขี้ขลาด อยู่ด้วยความกลัว มีวิตกจริต กลัวเพื่อนมาทำร้าย เลยทำร้ายเพื่อนก่อน อย่างนี้อย่าทำ จุดยืนของคนอาจจะแตกต่างกัน นักการเมือง พรรคการเมือง อาจจะห่วงไปอีกอย่างหนึ่ง วันนี้เราเป็นประชาชน เราเป็นร่างทรงของประชาชน ตั้งแต่ตอนเป็นเลขาธิการ กลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) และพูดแทน ประชาชนได้เลยว่า สิ่งที่ประชาชนต้องการเห็นคือ ความอยู่รอดปลอดภัยของประเทศชาติ ไม่ต้องเอา ทฤษฎีของ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน อเมริกา มาอ้างดีกว่า

พระสุเทพ ปภากโร กล่าวว่า เอาว่าข้อเท็จจริงทางไหนที่จะทำให้ประเทศชาติอยู่รอดปลอดภัย เราเอาอย่างนั้น เราไม่ติดกับรูปแบบว่า นายกรัฐมนตรีจะมาจากเลือกตั้ง หรือ"คนนอก" ได้ทั้งนั้น แต่ขอว่าเมื่อเอามาแล้ว ทำแล้ว มองเห็นภาพรวมแล้วว่า บ้านเมืองปลอดภัยได้หรือไม่ ส่วนจะอยู่กี่วาระกี่ปี ไม่จำเป็น ขอว่า ให้มีโอกาสให้คนดีได้มีโอกาสมาทำหน้าที่

"เวลานี้ กปปส.จะไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ ที่ยังไม่ได้ ข้อยุติ ควรให้รัฐธรรมนูญ มีความชัดเจนมากกว่านี้ และ เป็นรัฐธรรมนูญมี่เหมาะกับประเทศไทยหรือไม่ ทำให้ประเทศอยู่รอดปลอดภัยหรือไม่ นักการเมืองที่ออกมาวิพากษ์ วิจารณ์ อาจจะรักประเทศไทยมากกว่าคนอื่นหรืออาจจะรักตัวเอง ห่วงอนาคตตัวเองมากก็ได้ใครจะไปรู้ แต่หากมีใครมาขอคำปรึกษาก็พร้อมจะตอบไป แต่เราคงไปสอนนักการเมืองไม่ได้ นักการเมืองเขาเก่งทุกคน เพราะเป็นมนุษย์พันธุ์พิเศษ ส่วนอาตมาเองยืนยัน อีกครั้งว่าจะไม่กลับไปลงสมัครรับเลือกตั้งอีกแล้ว ” พระสุเทพ กล่าว

พระสุเทพ ปภากโร กล่าวว่า อาตมา และกปปส.ทุกคน ขอเป็นกำลังใจให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) , สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) , สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และแม่น้ำทั้ง 5 สาย ทำงานในหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ ใครที่ทำงานไม่ดีก็ควรปรับปรุงให้ดี มีเวลาจำกัดเขาให้โอกาสก็ต้องรีบทำงาน ทั้งนี้ ยืนยันได้ว่า ไม่มีใครในรัฐบาลหรือแม่น้ำ 5 สาย มาขอคำปรึกษา