เลื่อนตรวจหลักฐานคดีกลุ่มชายชุดดำ ครอบครองอาวุธนัดอีก23มีค.

เลื่อนตรวจหลักฐานคดีกลุ่มชายชุดดำ ครอบครองอาวุธนัดอีก23มีค.

ศาลอาญา เลื่อนตรวจหลักฐานคดีกลุ่มชายชุดดำ ครอบครองอาวุธนัดอีก23มีค. เหตุรอกระบวนการอัยการ-ดีเอสไอ

ที่ห้องพิจารณา 906 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 09.00 น. ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีหมายเลขดำ อ.4022/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายกิตติศักดิ์ หรือ อ้วน สุ่มศรี อายุ 46 ปี ชาวกรุงเทพฯ , นายปรีชา หรือไก่เตี้ย อยู่เย็น อายุ 25 ปี ชาวเชียงใหม่ , นายรณฤทธิ์ หรือนะ สุริชา อายุ 34 ปี ชาวอุบลราชธานี , นายชำนาญ หรือเล็ก ภาคีฉาย อายุ46 ปี ชาวกรุงเทพฯ และนางปุนิกา หรือ อร ชูศรี อายุ 40 ปี ชาวกรุงเทพฯ เป็นจำเลยที่ 1- 5 ในความผิดฐานร่วมกัน พกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ หรือชุมชน และ มีอาวุธ เครื่องกระสูนปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ ตาม พ.ร.บ อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ฯ พ.ศ 2490 มาตรา 4 ,8 ทวิ, 55 , 72 ทวิ และ 78

สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 จำเลยทั้งห้า กับพวกที่ยังหลบหนี และพวกที่ถึงแก่ความตายไปแล้ว ร่วมกันพกอาวุธ เครื่องกระสุน และวัตถุระเบิด ที่สามารถใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินให้เกิดความเสียหายได้ อาทิ เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 , ปืนเอ็ม 16 , ปืนเอชเค (HK) 33 หรือปืนอาก้า ซึ่งนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ ไปตามบริเวณแยกคอกวัว ถ.ตะนาว , ถ.ประชาธิปไตย แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร ในช่วงที่มีกลุ่มชายชุดดำ ระหว่างการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) ขณะที่ระหว่างพิจารณาชั้นศาลทั้งหมดไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราว

โดยนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความศูนย์กฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชน (กนส) . ซึ่งดูแลคดีให้กลุ่มจำเลย เปิดเผยว่า ศาลได้เลื่อนตรวจพยานหลักฐานออกไปก่อน เนื่องจากรอฟังคำสั่งพนักงานอัยการเกี่ยวกับจำเลยทั้งหมดในคดีนี้ว่า จะฟ้องข้อหาก่อการร้ายเพิ่มอีกหรือไม่ ซึ่งเดิมพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)

สรุปสำนวนควรฟ้องจำเลยทั้งห้าในข้อหาครอบครองอาวุธปืนและก่อการร้าย แต่ชั้นอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องเฉพาะข้อหาครอบครองอาวุธปืน แล้วสั่งไม่ฟ้องข้อหาก่อการร้าย ดังนั้นอัยการจึงต้องส่งความเห็นและสำนวนกลับไปให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ) พิจารณาชี้ขาดตามขั้นตอนกฎหมายว่าจะมีความเห็นแย้งกับอัยการหรือไม่ หากอธิบดีดีเอสไอ เห็นแย้งโดยยืนยันว่าจะให้ฟ้องจำเลยทั้งห้าในข้อหาก่อการร้ายตามสำนวนการสอบสวนเดิม อัยการก็จะต้องแก้ไขคำฟ้องคดีนี้โดยเพิ่มข้อหาก่อการร้าย แต่หากอธิบดีดีเอสไอ เห็นด้วยตามคำสั่งอัยการที่ไม่ฟ้องข้อหาก่อการร้าย คดีในส่วนนี้จะยุติไป แล้วจะดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไปในส่วนเฉพาะข้อหาครอบครองอาวุธปืน ซึ่งศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐาน คดีครอบครองอาวุธ ฯ อีกครั้งในวันที่ 23 มี.ค.นี้ เวลา 13.30 น.