ตร.เข้าตรวจค้นเป้าหมายผู้มีอิทธิพลยึดอาวุธปืนเพียบ

ตร.เข้าตรวจค้นเป้าหมายผู้มีอิทธิพลยึดอาวุธปืนเพียบ

กองปราบสนธิกำลังตำรวจภูธรภาค 8 เข้าตรวจค้นเป้าหมายผู้มีอิทธิพลยึดอาวุธปืนได้จำนวนมาก

พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รรท.ผบช.ก. สั่งการให้ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. นำกำลังเข้าประสานงานกับ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผบช.ภ.8 พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.สส.ภ.จว.นครศรีฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม และ บช.ก. รวม 200 นาย ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 8 จำนวน 100 นาย พร้อมด้วยหน่วยปฏิบัติการพิเศษคอมมานโดกองปราบปรามติดอาวุธหนักครบมือ เฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 ลำ นำโดย พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รรท.ผกก.ปพ.บก.ป. เข้าตรวจค้นเป้าหมายซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่รวมทั้งสิ้น 16 จุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในพื้นที่ จ.นครศรีฯ เกิดคดีอุจฉกรรจ์ขึ้นบ่อยครั้ง โดยมีสาเหตุมาจากการขัดผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มผู้มีอิทธิพลจำนวน 2 กลุ่ม ซึ่งล่าสุดได้เกิดเหตุสังหารโหด 4 ศพ แต่ต่อมาตำรวจกองปราบฯ สามารถจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้

ทั้งนี้ จากการตรวจค้นในครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญประกอบด้วย 1.บ้านพักของ นายสมบูรณ์ ชุมทอง หรือกำนันบูรณ์ บ้านเลขที่ 40 ต.ขอนหาด อ.ชะอวด 2. นายคนึง อินทร์คีรี หรือกำนันคนึง บ้านเลขที่ 21 ต.แก้วแสน อ.นาบอน 3. นายป้อม หรือขวัญชัย รอดมณี ลูกชายของ นายเยื้อน รอดมณี หรือ สจ.เยื้อน ผู้มีอิทธิพลชื่อดังซึ่งกำลังหนีหมายจับของศาลหลังถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 8 เดือน ในคดีอาวุธปืน โดยเข้าค้นที่บ้านเลขที่ 42 ต.บ้านเพิง อ.ปากพนัง 4. นายยุทธนา หรือปาน รอดมณี ที่อยู่เดียวกันกับ นายขวัญชัย 5.นายสหัส สุวรรณมณี หรือ สจ.ดิก บ้านเลขที่ 232 ต.นากะชะ อ.ฉวาง 6. นายเจริญ หรือยาว ชินวงศ์ หรือกำนันยาว บ้านเลขที่ 81 ต.ปากแพรก อ.ปากพนัง ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกับ สจ.เยื้อน และ 7. นายอิทธิชัย หรือเล็ก รอดมณี บ้านเลขที่ 25 ต.ท่าพยา อ.ปากพนัง

พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า จากการตรวจค้นผู้ต้องสงสัยแต่ละรายได้ให้ความร่วมมือกันอย่างดีไม่มีการต่อสู้ขัดขืน และสามารถยึดอาวุธปืนได้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นปืนพก ปืนกลมือ ปืนลูกซอง มีทั้งมีทะเบียน และไม่มีทะเบียน จึงได้อายัดอาวุธทั้งหมดมาตรวจสอบและทำประวัติไว้ ส่วนใครที่พบว่ามีความผิดก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องสงสัยแต่ละคนยังไม่พบว่ามีหมายจับ แต่หากตรวจสอบพบว่าปืนที่ครอบครองผิดกฎหมายก็จะเรียกตัวมาดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ยังได้บอกกับ นายขวัญชัย ลูกชายของ สจ.เยื้อน ให้นำพ่อที่กำลังหลบหนีคดีมามอบตัวภายในสองสัปดาห์ หากยังไม่มามอบตัวกองปราบฯจะกดดันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก สจ.เยื้อน ต้องสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่หลายคดี

"เป็นนโยบายของรัฐบาล และ พล.ต.ต.ฐิติราช รรท.ผบช.ก. ที่ต้องการให้ปราบปรามผู้มีอิทธิพล ต่อไปนี้หากเสียงปืนดังขึ้นที่ไหน กองปราบฯ จะลงพื้นที่ไปกดดันทันที" พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าว