สนช.แห่จองกฐิน ซักฟอก38อดีตส.ว.

สนช.แห่จองกฐิน ซักฟอก38อดีตส.ว.

สนช.แห่จองกฐิน ซักฟอก38อดีตส.ว. เน้นเรื่องเจตนาในการลงมติผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาส.ว.ทั้ง3วาระ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันที่ 5 มี.ค.จะมีการพิจารณาดำเนินการถอดถอนสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 38 คนออกจากตำแหน่งตามมาตรา 6 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ประกอบมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 เพื่อให้คู่กรณี คือ ป.ป.ช. และอดีตส.ว.38 คน มาตอบข้อซักถามต่อคณะกรรมาธิการซักถามนั้น

ปรากฏว่า มีสมาชิกสนช.จำนวน 6 คน ได้ยื่นประเด็นซักถามมายังคณะกรรมาธิการซักถามประกอบด้วย พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร นายสนิท อักษรแก้ว พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม นพ.เจตน์ ศิริธรานนท์ นายสุธรรม พันธศักดิ์ และนายสมชาย แสวงการ โดยประเด็นที่ซักถามมีทั้งการซักถามป.ป.ช.ฝ่ายเดียว ซักถามอดีต 38 ส.ว.ฝ่ายเดียว และซักถามคู่กรณีทั้งสองฝ่าย

ทั้งนี้ประเด็นที่จะซักถามป.ป.ช.ส่วนใหญ่จะมีความคล้ายกับกรณีการซักถามนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ก่อนหน้านี้คือ สอบถามเรื่องข้อกฎหมายในการเอาผิด 38 อดีตส.ว.ว่า หลังจากที่รัฐธรรมนูญปี 50 สิ้นสภาพไปแล้ว เหตุใดจึงส่งเรื่องถอดถอนให้สนช.พิจารณาถอดถอน และฐานความผิดที่ใช้กล่าวหาอดีต 38 ส.ว. เป็นความผิดตามกฎหมายป.ป.ช.ข้อใด รวมถึงการให้ป.ป.ช.ชี้แจงถึงเรื่องการกระทำของ 38 อดีตส.ว.ที่เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อนในการลงมติผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน

ขณะที่คำถามที่จะซักถาม 38 อดีตส.ว.จะเน้นเรื่องเจตนาในการลงมติผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาส.ว.ทั้งสามวาระว่า ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เรื่องการลงสมัครส.ว.อีกรอบ โดยไม่ต้องเว้นวรรค 2 ปี จริงหรือไม่ ตลอดจนการซักถามเรื่องกรณีที่ระบุว่า ไม่ทราบว่าร่างรัฐธรรมนูญที่ลงมติให้ความเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญที่เข้าชื่อเสนอแก้กฎหมาย เป็นร่างกฎหมายคนละฉบับกัน จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ให้เกิดความชัดเจนได้อย่างไร