ผบ.ตร.แจงทหารจับบ่อนเตาปูน อยู่ในช่วงกม.พิเศษ

ผบ.ตร.แจงทหารจับบ่อนเตาปูน อยู่ในช่วงกม.พิเศษ

ผบ.ตร.แจงทหารจับบ่อนเตาปูน ตร.จับร่วมทหาร 4 ครั้งแล้ว อยู่ในช่วงกม.พิเศษ-ทหารมีอำนาจเต็มที่ เผยไม่ได้ขัดแย้งผบช.น.

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้ข้าราชการตำรวจสังกัดบช.น.ระดับผกก.-รองผบช.จำนวน 231 นาย โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

พล.ต.อ.สมยศ ได้มอบนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบนโยบายให้ข้าราชการตำรวจระดับผกก.ในสังกัดบช.น. ให้เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในองค์กรตำรวจ กรณีที่ทหารเข้าไปจับกุมบ่อนการพนัน โดยจะต้องปฏิรูปภายในองค์กรตำรวจให้ดีขึ้นก่อน เพื่อเตรียมความพร้อมให้หน่วยงานอื่นปฏิรูปองค์กรตำรวจแต่ขอให้ทำความเข้าใจตำรวจ อย่างทิ้งหน้าที่ให้แล้วเอาภาพลักษณ์ที่เข้าสู่องค์กรของตนเอง รวมทั้งให้ปฏิบัติตามนโนบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และรัฐบาล ในเรื่องอบายมุขที่ผิดกฎหมายที่ผ่านมามีการจับกุมอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์เรื่องการค้าประเวณี ไม่ให้สถานบริการอนุญาตให้เปิดห้องพักเพื่อมีการค้าประเวณี และดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศ ปัญหาการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับประชาคมอาเซียน ห้ามแถลงข่าวเรื่องเกี่ยวกับการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นนอกประเทศในประเทศไทยโดยเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เรียกแขกประเทศไทยตกเป็นพื้นที่ก่อการร้าย

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวในที่ประชุมว่า ภายหลังจากที่ได้มีการแต่งตั้งโยกย้ายระดับสัญญาบัตรเสร็จสิ้นแล้ว จึงได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมเพื่อมอบนโยบายที่บช.น.อีกครั้ง โดยเน้นเรื่องการถวายความปลอดภัยอารักขาพระบรมวงศ์ศานุวงศ์เป็นหลัก รวมทั้งต้องร่วมกันแก้ไขสิ่งที่ไม่ได้ที่เกิดขึ้นอย่างกรณีทหารที่เข้าไปตรวจค้นจับกุมบ่อนการพนันในพื้นที่ต่างๆ ทำให้ตำรวจถูกดูแคลนจากหน่วยงานอื่นๆ ที่สามารถรับแจ้งเหตุ โดยเฉพาะทหาร เพราะประชาชนเกิดความไม่เชื่อใจตำรวจ เพราะเชื่อว่ามีส่วนรู้เห็นแล้วได้รับประโยชน์ เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขปฏิรูปโครงสร้างของตำรวจเองก่อน แต่ถ้ามีการปฏิรูปตำรวจเกิดขึ้น ก็ต้องถ้าทำให้ดีขึ้นให้ได้รับความศรัทธาและการยอมรับ โดยจะต้องดำเนินตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล โดยเรื่องแรกที่ให้ความสำคัญคือเรื่องการปราบปรามอบายมุขผิดกฎหมายบ่อนการพนัน

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีการจับกุมหลายท้องที่เกิดขึ้น เป็นเหตุที่ทำให้ผู้บังคับบัญชาออกคำสั่งให้ผู้บังคับการ รองผบก. ผกก. 5 เสือ ถูกไปช่วยราชการ ในเนื้อแท้การทำงานทราบดีว่า ตำรวจมีส่วนร่วมและช่วยในกำงานร่วมกับทหาร แต่เราไม่สามารถออกหน้าหรือทำหน้าที่เป็นตัวหลักได้ เพราะปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการใช้กฎหมายพิเศษตามพ.ร.บ.กฎอัยการศึก ทหารมีอำนาจเต็มในการจะรื้อ จะพัง จะทำลาย ไม่ผิด แต่ตำรวจทำไม่ได้ ต้องมีการขออนุมัติหมายจับใช้ในเวลากลางวัน อะไรที่มีความสลับซับซ้อนในการจับกุมก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยง ถ้าตนหรือผบช.น.สั่งว่าให้จับให้ได้ไม่เช่นนั้นผมจะย้ายคุณ ผิดพลาดขึ้นมาก็เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ จะมีเสียงสะท้อนว่านายเอาแต่สั่ง แต่ไม่รับผิดชอบ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ต้องรับผิดชอบไปขึ้นศาล เราจึงจำเป็นต้องอาศัยอำนาจของทหารในการรับผิดชอบ ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหลัก ตำรวจจะทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุน

“กรณีมีการจับบ่อนการพนันหลายครั้ง เมื่อสักครู่ผมได้ตรวจดูบันทึกจับกุมที่เกิดขึ้นก็มีการ่วมมือในบันทึกจับกุมเขียนไว้ชัดเจน ฝ่ายทหารและตำรวจมีการร่วมมือและสนับสนุนกัน แต่ทหารมีกฎหมายพิเศษทำประโยชน์ขึ้น แต่ตำรวจปฏิเสธไม่ได้ เมื่อมีการจับกุมเกิดขึ้น ตำรวจปฏิเสธไม่ได้ และผมได้คุยกับผบช.น.ยืนยันว่า ท่านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอบายมุขผิดกฎหมาย หรือบ่อนการพนัน บางครั้งมีเสียงเล็ดรอดออกไปว่า ผมกับผบช.น.ขัดแย้งกัน แล้วผมจะไปมีปัญหาอะไร ผบช.น.ก็ไม่ได้มีปัญหากับผม ผมเองไม่ได้มีปัญหากับพวกท่าน เพียงแต่ว่า จะให้ท่านรู้เวลานี้เป็นเวลาอะไร ควรทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน โดยที่ผมไม่จำเป็นต้องสอนพวกท่าน เพราะพวกท่านเป็นถึงพ.ต.อ.แล้ว อนาคตอาจจะมีใครที่นั่งอยู่ตรงนี้มาเป็นผบ.ตร.ก็เป็นได้ ผมจึงอยากให้พวกท่านไตร่ตรองและคิดให้ดีว่า ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ผมไม่อยากทำเวลาที่ถึงเวลาเกิดเรื่องแล้ว ต้องมีคำสั่งให้ไปช่วยราชการหรือย้ายท่าน เพราะคงไม่มีความสุขถ้าต้องกระทำกับผู้ใต้บังคับบัญชา หรือน้องๆ ที่เคยเห็นหน้ากัน ออกคำสั่ง เพราะเป็นความจำเป็นกดดันเวลาเกิดสิ่งที่ไม่ดี เหมือนกับประชาชนหรือสื่อเวลามีสิ่งที่ไม่ดีหรือสิ่งชั่วร้ายเกิดขึ้น ตำรวจมักจะมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ด้วย เพราะอะไร” ผบ.ตร. กล่าว

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า ตนได้รับรายงานจากผบช.น.ว่า ทุกครั้งในการจับกุมบ่อนการพนันได้มีการประสานงานกันระหว่างทหารและตำรวจ อย่างกรณีบ่อนเตาปูนได้มีทหารได้เข้าไปบุกจับเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ทหารโทรคุยกับผบช.น. ต่อหน้าของตนเอง ก็จึงถามว่าผลการตรวจสอบเป็นอย่างไร ก็บอกว่า ได้ข่าวมาว่ามีการลักลอบเล่นการพนันจึงได้เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งได้ตรวจสอบบ่อนเตาปูนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว แต่ไม่เคยได้ประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าก่อนหน้านี้ 4 ครั้ง ไม่เคยบอกว่าเข้าไปตรวจสอบร่วมกับทหารมาก่อนหน้านี้ ซึ่งกรณีดังกล่าวถือว่าเป็นการทำงานร่วมกัน ถึงแม้ว่าบางครั้งไม่ได้ลงมาลึกในระดับล่าง แต่ในผู้บังคับบัญชาระดับบนได้มีการพูดคุยกันมาโดยตลอด หลังจากนี้ตนจะเดินทางไปพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว

เมื่อถามว่ากรณีบ่อนเตาปูนมีคนมาร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วทำไมเพิ่งมีการไปตรวจสอบนั้น พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า กรณีที่ทหารร่วมกับตำรวจได้เข้าไปจับกุมบ่อนเตาปูนเป็นครั้งที่ 5 ซึ่งผ่านมา 4 ครั้ง ก็จับไม่ได้ ก่อนที่มาร้องเรียน ได้มีการดำเนินการตรวจสอบมา ถ้าพบการกระทำความผิดก็จะเข้าไปดำเนินการ โดยสิ่งที่ทหารทำ เป็นเรื่องที่ทหารสามารใช้กฎหมายพิเศษ ตามพ.ร.บ.กฎอัยการศึก การเข้าไปตรวจสอบยามวิกาล หรือทำลายสิ่งกีดกั้น ตำรวจต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นตำรวจต้องทำงานร่วมกับทหาร โดยขอให้ทหารเป็นแนวหน้า ผู้ปฏิบัติระดับล่างอาจจะไม่ได้รับทราบ เพราะอยู่ในชั้นความลับ เพื่อให้การตรวจสอบบรรลุเป้าหมาย