ผันผวนเชิงบวก

UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ผันผวนเชิงบวก

เราคาดว่าตลาดไทยวันนี้จะได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับประเด็นการเลื่อนการประมูล 4G ซึ่งเราได้เห็นแรงซื้อกลับตั้งแต่ช่วงท้ายตลาดเมื่อวานนี้และน่าจะเป็นบวกต่อได้ในวันนี้ เนื่องจากตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นบวก แต่ปัจจัยลบยังมีอยู่คือ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงแรงจะเป็นปัจจัยกดดันให้ SET บวกได้ไม่มากในวันนี้ และไม่น่าจะผ่านแนวต้านที่ 1610
แนวรับ/แนวต้าน : 1590/1610
กลยุทธ์ : ช่วงที่หุ้นลงในสัปดาห์นี้ ควรทยอยเก็บกลุ่มพลังงานทดแทน รับเหมา และแบงก์และหุ้นปันผลสูง ทยอยขายบ้างเมื่อดัชนีเข้าใกล้ 1620 จุด
สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
นักลงทุนระยะสั้น : BANPU(33), BCP(42.75)
นักลงทุนระยะยาว : GFPT(21.5), KTB(29)


จับข่าวมาเก็งกำไร

BEC : บริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาสที่ 4/57 ที่ 1,005 ล้านบาท ลดลง 28%yoy และ 7%qoq จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานดิจิตอลทีวี และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ผลประกอบการทั้งปีของปี 2557 ลดลง 21%yoy จากการขาดทุนในธุรกิจดิจิตอลทีวี และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทั้งนี้แม้เราคาดว่าผลประกอบการในปี 2558 นี้จะทรงตัว เรายังชอบ BEC จากการเป็นผู้นำในธุรกิจการทีวี คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐานที่ 56.25 บาท (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน

ปัจจัยภายในประเทศ

+ รัฐบาลเดินหน้าเปิดประมูล 4 จี "ปรีดิยาธร" ชี้ กสทช.เดินหน้าได้ทันที คาดใช้เวลาเตรียมการ 4 เดือน เปิดประมูลไม่เกิน ก.ย.ปีนี้ ด้าน "พรชัย" เผยไม่มีสัญญาณ เลื่อนประมูล 4จี ชี้เกิดเร็วช่วยหนุน "ดิจิทัล อีโคโนมี" ขณะ กสทช.รอคำสั่ง คสช. ระบุยังคงกรอบเวลาเดิม หากช้าอย่างมากไม่เกินสิ้นปีนี้ "ประยุทธ์" สร้างความมั่นใจนักลงทุน ดันธุรกิจไทยสู่ความ "มั่งคั่ง-ยั่งยืน" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง สั่งลดขั้นตอนเร่งเบิกจ่ายเร็วขึ้น เดินตามโรดแมป 5 ปี ส่วนแบงก์รัฐ "ออมสิน-ธ.ก.ส." ไม่ห่วงหนี้ครัวเรือนกระทบสินเชื่อใหม่ มั่นใจเติบโตได้ตามเป้า เผยแม้หนี้ครัวเรือนสูง แต่บางส่วนมาจากการดึงหนี้นอกระบบเข้ามา ด้าน "ธ.ส.ก." แจงอัตราการชำระหนี้ของเกษตรกรยังอยู่ในเกณฑ์ปกติที่ 92-93% ทางด้านตลาดหลักทรัพย์ เผยผลตอบแทนการลงทุนหุ้นไทยเฉลี่ย 5 ปีอยู่ที่ 20% ติดอันดับต้นๆ ของเอเชียแต่สูงสุดเมื่อเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ

ปัจจัยต่างประเทศ

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,214.42 จุด ลดลง 10.15 จุด หรือ -0.06%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กดิ่งลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐยังส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ปิดในแดนลบด้วย

+ สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน เม.ย.ร่วงลง 2.82 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.17 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานที่มีอยู่สูงเกินไป หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นกว่า 8 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว