ผันผวนเชิงบวก

ผันผวนเชิงบวก

ช่วงที่หุ้นลงในสัปดาห์นี้ ควรทยอยเก็บกลุ่มพลังงานทดแทน รับเหมา และแบงก์และหุ้นปันผลสูง

UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ผันผวนเชิงบวก 

เราคาดว่าตลาดไทยวันนี้จะปรับขึ้นได้ต่อ หลังจากที่เฟดของสหรัฐส่งสัญญาณบวกตรงตามที่เราคาดการณ์ไว้ โดยประกาศจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ เนื่องจากการเติบโตของรายได้และเงินเดือนในสหรัฐยังอยู่ในระดับต่ำ ถึงแม้ว่าตลาดแรงงานจะฟื้นตัวขึ้นก็ตาม ส่งผลให้เป็น sentiment บวกดันดัชนีดาวโจนส์ให้ทำ new high ใหม่ได้ ประกอบกับนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลประเด็นหนี้ของกรีซ ส่งผลให้ sentiment วันนี้ยังคงเป็นบวก
แนวรับ/แนวต้าน : 1590/1610
กลยุทธ์ : ช่วงที่หุ้นลงในสัปดาห์นี้ ควรทยอยเก็บกลุ่มพลังงานทดแทน รับเหมา และแบงก์และหุ้นปันผลสูง ทยอยขายบ้างเมื่อดัชนีเข้าใกล้ 1620 จุด
สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
นักลงทุนระยะสั้น : BANPU(33), BCP(42.75)
นักลงทุนระยะยาว : GFPT(21.5), KTB(29)


จับข่าวมาเก็งกำไร

BCH : บริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาสที่ 4/57 ที่ 145 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2%yoy ซึ่งแม้ว่าจะดีกว่าที่เราคาดไว้ การฟื้นตัวของ WMC ยังคงล่าช้า และเนื่องจากเราคาดว่า WMC จะยังขาดทุนอีกปี ทำให้ผลประกอบการของ BCH ในปีนี้จะยังอยู่ภายใต้ความกดดัน ราคาหุ้นคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบจนกว่าจะมีสัญญาณที่ชัดเจนเรื่องการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ถือ ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 8.30 บาท ราคาเหมาะสมที่ควรเข้าซื้อคือ 7.70 บาท(รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน

ปัจจัยภายในประเทศ

- "ประยุทธ์" มีมติให้ชะลอการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ตามกำหนดเดิมในวันที่ 16 มี.ค.นี้ออกไปก่อน จนกว่าจะแก้กฎหมายปิโตรเลียมให้แล้วเสร็จ โดยรัฐบาลจะส่งเรื่องให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ แก้ไขภายใน 3 เดือน แล้วค่อยเดินหน้าต่อไป ทางด้าน ส.อ.ท. กางผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ม.ค. 58 ประเดิมลดลงจาก ธ.ค. 57 หลังจากที่ไต่ระดับขึ้นมาต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ประเมินยอดผลิตยานยนต์ไทยใหม่ หลังทิศทางส่งออกสดใสระบุเป้าผลิตรถ ปี 58 ทะลุ 2.15 ล้านคัน เผย ม.ค. ส่งออกโต 14% ตะลึงตลาดยุโรปถูกตัดจีเอสพี แต่ส่งออกโตพุ่ง 66% อเมริกาเหนือโต 95% ออเดอร์ ส่งออกอีโคคาร์พุ่งสูง ส่วนในประเทศซบเซา ร่วง 12% เหตุมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ชัดเจน หนี้ครัวเรือนสูง

ปัจจัยต่างประเทศ

+ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,209.19 จุด เพิ่มขึ้น 92.35 จุด หรือ +0.51%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ก.พ.) โดยดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวัน หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับข่าวที่ประชุมยูโรโซนมีมติขยายเวลาเงินกู้ให้กรีซออกไปอีก 4 เดือน

+ สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 17 เซนต์ ปิดที่ 49.28 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ก.พ.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐอาจจะสูงขึ้น หลังจากมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนสูง