กันตนาปรับแผนมูฟวี่มอลล์อัดพันล้านผุด200โรง

กันตนาปรับแผนมูฟวี่มอลล์อัดพันล้านผุด200โรง

"กันตนา" พลิกโมเดลธุรกิจ "มูฟวี่ มอลล์" หันลงทุนขยายสาขาเอง เทงบ 1-1.2 พันล้านวางเป้าปีนี้เปิดเพิ่ม 200 แห่ง

นายจาฤก กัลย์จาฤก ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปีนี้จะใช้งบลงทุน 1,000 -1,200 ล้านบาท ขยายสาขาโรงหนังในโครงการ "กันตนา มูฟวี่ มอลล์" ภายใต้การลงทุนของบริษัท ซึ่งเป็นรูปแบบธุรกิจใหม่ที่จะช่วยให้การขยายสาขาได้รวดเร็ว วางเป้าหมายปีนี้ 200 แห่ง และมีโรงหนังที่ขายสิทธิประกอบกิจการให้ผู้สนใจลงทุนอีกกว่า 100 แห่ง หลังจากก่อนหน้านี้ขยายตัวได้ล่าช้า เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมา รวมทั้งผู้ประกอบการที่สนใจลงทุน ไม่มีความพร้อมด้านเงินทุน ซึ่งขณะนี้มีผู้จองสิทธิแต่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาอีกกว่า 50 ราย รวมถึงผู้ซื้อสิทธิไปแล้วมีปัญหาการก่อสร้างล่าช้าเพราะบริษัทรับเหมาก่อสร้างทิ้งงานหรือก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน

ก่อนหน้านี้บริษัทวางเป้าหมายขยายโรงหนังให้ครบ 100 แห่ง ภายในปี 2557 ซึ่งปรับลดจำนวนจากเดิมที่วางไว้ 500 แห่ง และยังเป็นการปรับเป้าหมายการขยายสาขาจากเดิมที่ตั้งไว้ในช่วงเริ่มต้นดำเนินโครงการนี้ที่ 1,000 แห่ง

สำหรับรูปแบบการลงทุน จะเจรจากับสหกรณ์ในต่างจังหวัด เพื่อเช่าพื้นที่ในลักษณะสร้างและส่งมอบ (Built &Transfer) หรือเป็นการลงทุนก่อนเพื่อขายต่อให้กับเจ้าของที่ดินบริหาร ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมโดยเพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัท เอเชีย ซีนีม่า เน็ตเวิร์ก จำกัด (เอซีเอ็น) บริษัทในเครือ เป็น 500 ล้านบาท

ขณะนี้มีโรงหนังที่ก่อสร้างในพื้นที่ที่ลงนามสัญญาแล้วกว่า 40 แห่ง ได้แก่ จ.นครราชสีมา จ.เชียงใหม่ จ.ขอนแก่น จ.กาญจนบุรี เป็นต้น และยังมีพื้นที่เป้าหมายกว่า 40 แห่ง อาทิ จ.บุรีรัมย์ จ.ชลบุรี และ จ.สุพรรณบุรี จ.ตาก เป็นต้น

อย่างไรก็ดีได้ปรับเปลี่ยนรายละเอียดโครงการบางส่วน เช่น การปรับจำนวนที่นั่งเพิ่มจาก 50 เป็น 84 ที่นั่ง ปรับเปลี่ยนวัสดุก่อสร้างแบบพรีแคสท์ เพื่อทำเร็วและมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงปรับค่าสัญญาสิทธิการขยายโรงหนังเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3-6 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทจะเน้นหารายได้โครงการมูฟวี่ มอลล์ ในธุรกิจที่ไม่ใช่โรงหนังหรือ "นอน มูฟวี่" มากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้ 60% จากเดิมที่มีรายได้มาจากตั๋วหนังและโฆษณาในโรงหนังเป็นหลัก โดยเริ่มเจรจากับสถาบันศึกษา หรือติวเตอร์ต่างๆ เพื่อจัดสอน หรือถ่ายทอดสดการกวดวิชาภายในโรงหนัง

ปีที่ผ่านบริษัทมีรายได้ 1,000-1,500 ล้าน ลดลง 40% จากผลกระทบของธุรกิจแล็บฟิล์ม ส่วนปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้นจากธุรกิจทีวี ในฐานะคอนเทนท์โปรวายเดอร์ ผู้ผลิตรายการป้อนช่องทีวีต่างๆ โดยคิดเป็นสัดส่วนกว่า 70-80% และเหลือเป็นรายได้ภาพยนตร์ ธุรกิจการศึกษา และรายได้จากโครงการมูฟวี่ มอลล์ รวม 30%

"รายได้ในกลุ่มทีวีปีนี้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากเดิมอยู่ที่ 50% เนื่องจากอุตสาหกรรมทีวีเปลี่ยนแปลงจากระบบอนาล็อกสู่ดิจิทัล ทำให้มีช่องทีวีเพิ่มขึ้น และเป็นโอกาสขยายการลงทุนและสร้างรายได้จากธุรกิจทีวีมากขึ้นหลังจากนี้"