ณุศาศิริรุกโรงแรม-พลาซ่า

ณุศาศิริรุกโรงแรม-พลาซ่า

"ณุศาศิริ" หันทำธุรกิจโรงแรมและพลาซ่า ตั้งบริษัทย่อย"ณุศา ลายา" หวังเพิ่มช่องทางการขยายตลาด

นายสมจิตร ชัยชนะ กรรมการและเลขานุการบริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) NUSA เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้เข้าลงทุนในบริษัท ณุศา ลายา จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการเกี่ยวกับโรงแรม และพลาซ่า มูลค่า 96.50 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการลงทุน 100%ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด

การเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทณุศา ลายา ไม่ถือว่าเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันและมีขนาดของรายการเมื่อคำนวณตามเกณฑ์ต่างๆ สูงสุดคิดเป็น 6.34%ซึ่งเป็นรายการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่ไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่มีนัยสำคัญที่ต้องเปิดเผยตามประกาศคณะกรรมการตลาดทุน อย่างไรก็ตาม การลงทุนดังกล่าวเข้าหลักเกณฑ์การเปิดเผยสารสนเทศกรณีการเข้าร่วมทุนหรือยกเลิกการเข้าร่วมทุนตั้งแต่ 10%ของทุนชำระแล้วของบริษัทที่เข้าร่วมทุน

บริษัทณุศา ลายา เป็นบริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับโรงแรมและพลาซ่า ซึ่งบริษัทณุศาศิริจะใช้เงินลงทุนจากดำเนินการเป็นการชำระค่าหุ้น ในครั้งนี้ และประโยชนที่คาดว่าจะได้รับ คือ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีความสะดวกในการประเมินและวัดผลความสำเร็จของการดำเนินการ และเป็นการเพิ่มช่องทางในการขยายตลาดได้มากขึ้น ซึ่งบริษัทย่อยมีการดำเนินธุรกิจบางส่วนที่มีความแตกต่างจากบริษัทแม่ อันจะเป็นการสร้างรายได้ในอนาคตให้แก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ และยั่งยืนต่อไป

การเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัทณุศาศิริในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (26-30 ม.ค.) ราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาแตะระดับสูงสุดที่ 1.19 บาท และล่าสุดปิดตลาดที่ระดับ 1.18 บาทเพิ่มขึ้น 0.04 บาทคิดเป็น 3.51%มูลค่าการซื้อขายรวม 214.36 ล้านบาท

นักวิเคราะห์ บล.เคเคเทรด กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยได้รวบรวมยอดขายสุทธิปี 2557 ของกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ดูแลมียอดขายโดยรวม 1.58 แสนล้านบาท ลดลง 18%จากปีก่อน โดยบริษัทที่มีการลดลงของยอดขายมากกว่ากลุ่มคือ บริษัทแสนสิริ จำกัด(มหาชน) SIRI และบริษัทแอลพีเอ็น ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) LPN เป็นผลของการเปิดตัวโครงการใหม่โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่ลดลง ประกอบกับแรงซื้อที่หดตัวจากประเด็นการเมืองและการอ่อนตัวลงของภาวะเศรษฐกิจ

สำหรับบริษัทที่มีการเติบโตมากกว่าปีก่อนคือบริษัทศุภาลัย จำกัด (มหาชน) SPALI และบริษัทเอพี จำกัด (มหาชน) AP ที่สินค้าคอนโดมิเนียมได้รับการตอบรับดีในช่วงกลางปี ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับเป้าหมายโดยรวมที่บริษัทคาดหมาย มีค่าเฉลี่ยรวมทำได้ต่ำกว่าที่คาด 9% โดยมีบริษัทเดียวที่ทำได้ตามเป้าคือ AP โดยแนวโน้มปี 2558 คาดว่าบริษัทจะตั้งเป้ายอดขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นราว 10-15% ซึ่งสอดคล้องกับการเปิดตัวโครงการใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวด้วยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นราว 20% โดยยังคงมีสินค้าแนวราบเป็นหลัก ที่อยู่อาศัยจดทะเบียนงวด 11 เดือน ปี 2557 อ่อนตัว 5%

จากข้อมูลศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รายงานยอดตัวเลขที่อยู่อาศัยจดทะเบียนโดยมียอดในเดือน พ.ย. 57 ที่ 1 หมื่นหน่วยลดลง 16%จากเดือนก่อนและ 29%จากงวดเดียวกันปีก่อน โดยมียอดสะสมในงวด 11 เดือน ปี 2557 อยู่ที่ 1.16 แสนหน่วย ลดลง 4.8%จากปีก่อน ประเภทที่อยู่อาศัยที่มีอัตราการปรับลดมากสุดคือทาวน์เฮาส์ที่ลดลง 21%จากปีก่อน

รองลงมาคือ คอนโดมิเนียมอ่อนตัวลง 3% ขณะที่ประเภทที่อยู่อาศัยบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดเติบโต 7% โดยสัดส่วนประเภทที่อยู่อาศัย อาคารชุดยังคงมีสัดส่วนมากสุด 55% บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดยังคงมีสัดส่วนรองลงมาที่ระดับ 29% ฝ่ายวิจัยคาดว่ายอดที่อยู่อาศัยจดทะเบียนปี 2557 จะมีตัวเลขที่อ่อนตัวลงราว 5-7% ซึ่งคาดว่าผลกระทบส่วนหนึ่งเกิดจากยอดขายในเดือน ธ.ค.2557 ของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่อ่อนตัวลงปัจจัยกดดันจากโครงการต่างจังหวัด

ผลกระทบแรงซื้อและภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเริ่มมีผลต่อโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด ด้วยประเด็นการยกเลิกการโอนกรรมสิทธิ์ลูกค้าของบริษัทแอลพีเอ็น ที่จังหวัดอุดรธานีที่มียอดยกเลิกราว 200 ล้านบาท ตามมาด้วยการยกเลิกการพัฒนาโครงการของ SIRI 2 แห่งในต่างจังหวัดที่มียอดขายน้อยกว่า 20% คือโครงการ The Base -ขอนแก่น และ The Base-เซ็นทรัลอุดร มียอดยกเลิกราว 400 ล้านบาท ซึ่งสัญญาณดังกล่าวยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงของกลุ่มที่พัฒนาโครงการโดยเฉพาะในต่างจังหวัดโดยเฉพาะสินค้าระดับล่างที่มีราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท อาจมีผลต่อยอดขายและงานในมือที่ลดลงจากยอดยกเลิกในอนาคต

ปัจจุบันบริษัทที่ฝ่ายวิจัยดูแลจะมีการขยายโครงการไปยังต่างจังหวัดและมีสินค้าในมือราว 15-20% ของมูลค่าโครงการรวมซึ่งจะติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด LH เด่นสุดจากผลประกอบการไตรมาส 4/2557 คาดว่าประเด็นบวกในระยะกลางของกลุ่มจากผลประกอบการในไตรมาส 4/57 ที่เติบโตที่ต่อเนื่องเช่นบริษัทศุภาลัย บริษัทแอลพีเอ็น บริษัทพฤกษา บริษัทแสนสิริ และบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์