ธนชาตประกันภัย กับ บทผู้พิทักษ์

ธนชาตประกันภัย กับ บทผู้พิทักษ์

ท่ามกลางการแข่งขันที่ไม่หยุดนิ่งในธุรกิจประกันภัยทำให้ผู้เล่นแต่ละรายต้องหาความ "โดดเด่น" เพื่อฉีกตัวเองให้หน

"ธนชาตประกันภัย" เลือกแล้วที่จะวางบทบาทตัวเองไว้ชัดกับการเป็น "The Guardian" กับการเป็นผู้ปกป้อง และดูแลความเสี่ยงด้านชีวิตและทรัพย์สินให้กับลูกค้า

"เราต้องฉีกตัวเองให้แตกต่างจากคู่แข่ง โดยสิ่งที่ทำมาตลอด 2 ปี และโฟกัสมากขึ้นในปีนี้ คือการทำหน้าที่ The Guardian" พีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าว และว่า เราอยู่ในธุรกิจประกันภัยมา 17 ปี ในแต่ละปีได้เห็นอุบัติเหตุมาเยอะมาก และนับวันจะมีปริมาณของการเกิดเหตุเยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้คุยกับทีมงานว่า จริงๆ แล้วเราต้องการอะไรกันแน่

จากการทำวิจัยอย่างต่อเนื่อง และจากข้อมูลที่ปรากฎ สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต 6 เดือนแรกของปี 2557 พบผู้เสียชีวิต 4,012 คน บาดเจ็บ 308,386 คน และทุพพลภาพ 623 คน

โดยมี 5 พฤติกรรมหลักๆ ที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ ก็คือ การคุยโทรศัพท์ เหม่อลอย และหันหน้าไปคุยกับคนที่นั่งข้างๆ หรือ ข้างหลังรถ เอื้อมไปหยิบของหลังรถ และส่ง Text, Line, Message และ SMS

ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นความคิดที่จะ "ปกป้อง" และ "ดูแล" ภายใต้ธีม "Yes, WE Safe" ซึ่งมีการทำกิจกรรมในสองส่วนได้แก่ Protection และ Assistance

ในส่วน "Protection" กิจกรรมจะดำเนินไปในสองมิติ ทั้งส่วนที่เป็นออนไลน์ และ ออฟไลน์

แอปพลิเคชัน “Thanachart Drive DD” (ธนชาต ขับ ดีดี) ที่เน้นสร้างการตระหนักรู้ให้กับผู้ขับขี่ได้ร่วมกัน "ลด งด วาง" โดยนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือที่สำคัญ กับ 3 การทำงานหลักของแอพพลิเคชั่น ก็คือ 1. ตรวจวัดพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ 2. ตรวจวัดพฤติกรรมการขับรถ เรื่องความเร็ว และในเวลาที่เบรคอย่างกระทันหัน โดยจะมีเสียงเตือนหากผู้ขับขี่ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กำหนด และ 3. ตรวจวัดประสาทสัมผัสของผู้ขับขี่ว่าสามารถโต้ตอบได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อมีการดื่มแอลกอฮอล์

การทำงานของแอพพลิเคชั่นนี้จะนำเอาทักษะของประสาทสัมผัสและสายตา แล้วสรุปออกมาเป็นคะแนน เพื่อให้ผู้ดื่มแอลกอฮอล์ได้ทราบถึงระดับความเมาในเวลานั้นๆ อีกทั้งยังเพิ่มบริการในส่วนอื่นๆ ด้วยปุ่มโทรด่วนหา You Drink I Drive หนึ่งในบริการที่ ธนชาตประกันภัย ทำความร่วมมือกับผู้ให้บริการขับรถเพื่อนำส่งผู้ขับขี่ที่มีอาการมึนเมากลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลด 35,960 ดาวโหลด ตั้งแต่ 7 กรกฎาคม 2557 - 31 ตุลาคม 2557 แต่ในส่วนนี้มีผู้เล่นที่แอคทีฟ 11,774 ราย ทั้งจากระบบปฏิบัติการ IOS , Android และ Window Phone

"Safer on the Road" หนึ่งในกิจกรรมออฟไลน์ที่เกิดขึ้น ในรูปแบบของการมอบป้ายเตือน การติดหมุดสะท้อนแสง และมอบไฟกระพริบบริเวณสี่แยกชุมชน เริ่มดำเนินการไปแล้วใน 8 จังหวัดได้แก่ ขอนแก่น เชียงใหม่ อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ สระบุรี นครราชสีมา และอุดรธานี

ในขณะที่อีกด้านเป็นการให้ความ “ช่วยเหลือ” เพื่อลดปัญหาสังคม ความสูญเสียที่เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนน และส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ โดยให้การสนับสนุนกับผู้ที่ได้รับความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ ในทุกๆ การดาวน์โหลดหนึ่งครั้งจะบริจาคเงิน 1 บาทให้กับกองทุน “กายอุปกรณ์เพื่อผู้พิการ” โรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทสมทบทุนจากยอดดาวน์โหลดและค่าความเสี่ยงที่สามารถลดลงได้เป็นเงิน 3 แสนบาท

"กิจกรรมดังกล่าว หัวใจสำคัญคือ การสร้างการตระหนักในเรื่องของการขับขี่อย่างมีสติและคำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน โดยให้ผู้ใช้รถได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการขับขี่ให้ปลอดภัย ขณะเดียวกันก็ได้ช่วยเหลือสังคมด้วยจากการดาวน์โหลด"

การพัฒนาและต่อยอดกิจกรรมดังกล่าวจะยังคงเป็นไปอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องในมุมมองของ พีระพัฒน์ เพื่อตอบโจทย์ของการเป็นผู้นำ 1ใน 5 ของผู้เล่นในอุตสาหกรรมนี้

โดยความชัดเจนในบทบาทของการเป็น "ผู้ปกป้อง" จะชัดเจนมากขึ้นนับจากนี้ จากการต่อยอดแคมเปญ Yes, WE Safe พร้อมทั้งการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนมากขึ้นในอนาคต

อีกด้านเป็นการโฟกัสการให้บริการเพราะถือว่าเป็นหัวใจของธุรกิจนี้ ซึ่งจะพัฒนาทั้งกระบวนการทำงาน ตั้งแต่การอบรมพัฒนาบุคลากรที่เน้นการนำเอาเครื่องมือใหม่ๆ เข้ามาใช้ เช่น เซอเวเยอร์แต่ละคนจะมีแทปเล็ตเพื่อทำงานประสานร่วมกับวอลรูมในสำนักงานใหญ่

"ในทุกข้อมูลที่เกิดขึ้นหน้างานจะถูกส่งไปยังวอลรูมที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยทำหน้าที่พิจารณาและตัดสินใจในแต่ละเคส ซึ่งจะช่วยลดความผิดพลาดจากการทำงานของคน แต่ได้สร้งมาตรฐานการทำงานที่ดี ในขณะเดียวกันยังมีหน่วยงานคอลเซ็นเตอร์ที่คอยให้คำแนะนำต่างๆ กับลูกค้า อาทิ รถชนหนักจะลากไปซ่อมที่อู่ไหนซึ่งอยู่ใกล้เคียง เป็นต้น ทุกอย่างเพื่อให้ลูกค้าได้เบาใจในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ"

กระบวนการดังกล่าวได้พัฒนาขึ้นเพื่อสร้างมาตรฐาน และความรวดเร็วในการให้บริการกับลูกค้า ซึ่งจากสถิติที่ดี พนักงานเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุก่อนคู่กรณี และในเวลาการให้บริการที่รวดเร็วขึ้นนี้ พีระพัฒน์ บอกว่า ยังต้องพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือสนับสนุนที่สำคัญ

จากนี้สิ่งที่ขับเคลื่อน "ธนชาตประกันภัย" จะเน้นหนักไปที่การสร้างแบรนด์ การลงทุนและพัฒนาด้านระบบไอที และ การสร้างระบบการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น เพื่อก้าวเดินที่เติบโตในแบบ Organic Growth ที่มองเรื่องความยั่งยืนและมั่นคงเป็นหลัก