ปิดเอเชี่ยนเกมส์ไทยจบอันดับ6 รับเงินอัดฉีดจากกองทุน 86 ล้าน

ปิดเอเชี่ยนเกมส์ไทยจบอันดับ6 รับเงินอัดฉีดจากกองทุน 86 ล้าน

ปิดฉากเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เกาหลีใต้ ทัพนักกีฬาไทยคว้าเหรียญรางวัลรวมอยู่อันดับ 6 ได้ไป 12 เหรียญทอง

7 เหรียญเงิน และ 28 เหรียญทองแดง โดยนักกีฬาทีมชาติไทยจะได้รับเงินรางวัลพิเศษ จากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติรวม 86.6 ล้านบาท

การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 “อินชอนเกมส์” ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม เป็นการแข่งขันวันสุดท้าย และมีพิธีปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการที่ อินชอน เอเซียด เมนสเตเดียม ในวันที่ 4 ตุลาคม โดยมี จุง ฮอง วอน นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ คิม ยอง ซู ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ชีค อาหมัด อัล ฟาฮัด อัล ซาบาห์ ประธานสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) ยู จอง บ๊อก นายกเทศมนตรีเมืองอินชอน ร่วมพิธีด้วย

เจ้าภาพจัดการแสดงที่สื่อเห็นว่าเอเชี่ยนเกมส์เป็นงานรื่นเริงของชาวเอเชีย 4.5 พันล้านคน ผ่านการแสดงแสงสีเสียง ให้เห็นถึงความสนุกสนาน ความตื่นเต้น และความซาบซึ้งประทับใจ ตลอดการแข่งขัน ทั้ง 16 วัน จากนั้น ได้การเชิญธงชาติเจ้าภาพเข้าสู่สนาม และตามด้วยการร้องเพลงชาติเกาหลีใต้โดย นักกีฬาทุกชาติและอาสาสมัครร่วมกันเดินขบวนเข้าสู่สนามแบบไม่แบ่งประเทศ และมีวงเคป๊อบชื่อดังที่ร่วมการแสดง ได้แก่ ซีเอ็นบลู และ “บิ๊กแบง” สร้างสีสันให้พิธีปิดเป็นอย่างมาก

สำหรับเจ้าภาพกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 อินโดนีเซีย จะเป็นเจ้าภาพในปี 2018 (พ.ศ.2561) โดยประธานโอซีเอ ได้กล่าวปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ และนายกเทศมนตรีเมืองอินชอนจะมอบธงต่อให้ บาสุกี้ ปูร์นาม่า ผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และ ริต้า ซูโบโว่ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกอินโดนีเซีย ซึ่งเมืองอิเหนา ได้โชว์การแสดงพื้นเมืองของอินโดนีเซีย ทั้งระบำรองแง็งและระบำของชาวเกาะสุมาตราใต้

ส่วนพิธีดับไฟในกระถางคบเพลิง จะใช้คบไฟ 45 คบ สื่อถึงชาติสมาชิก 45 ชาติที่ร่วมแข่งขัน “อินชอนเกมส์” เลื่อนมารวมตัวกันและพ่นน้ำออกมาอย่างสวยงาม ปิดฉากการแข่งขันครั้งนี้อย่างสมบูรณ์

สำหรับการชิงชัยของนักกีฬาไทย ในวันสุดท้าย มีแข่งแค่ คาราเต้ ที่สนาม กียาง ยิมเนเซียม นักกีฬาไทย ไทยส่ง 2 รุ่น รุ่นไม่เกิน 84 กก. ชาย ธีรวัตน์ คลังทองเจอกับ มูฮัมหมัด รามซาน จากปากีสถาน ในรอบ 16 คนสุดท้าย โดย หนุ่มไทยเอาชนะไปได้ 10-6 คะแนน ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้าย แต่ไปแพ้ เหวียน มินห์ ฝุง จากเวียดนาม 3-6 ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ในขณะที่ รุ่นไม่เกิน 50 กก. หญิง ทิพวัลย์ คำศรี ลงประเดิมสนามในรอบ 16 คนสุดท้ายเอาชนะ อานู อัดฮิคาริ จากเนปาลไปได้ 4-1 ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายไป แพ้ ซาง หยี่ ถิง จากฮ่องกง ไป 1-4 คะแนน ตกรอบ 8 คนสุดท้ายไปอีกคน สรุปผลงานทัพคาราเต้ไทย ทำได้ 1 เหรียญทองแดง จาก ทรงวุฒิ แทนหมุน

ขณะที่ “บิ๊กนิดหน่อย” จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี นายกสมาคมคาราเต้แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากผลงาน 1 ทองแดง “อินชอนเกมส์” นั้น ยอมรับว่าค่อนข้างผิดหวัง เพราะตั้งความหวังไว้ว่าจะได้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่โทษใครเพราะทั้งนักกีฬาและสตาฟฟ์โค้ชนั้น มีความพร้อมเต็มที่ และสู้อย่างสุดความสามารถแล้ว ซึ่งคู่แข่งก็พัฒนาขึ้นไปมากโดยจากนักกีฬาตะวันออกกลางที่เริ่มทำได้ดีขึ้น โดยนักกีฬาไทย จะต้องฝึกซ้อมมากกว่านี้ และสร้างประสบการณ์สำหรับการแข่งขันกีฬาใหญ่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย สุดท้ายก็ต้องขอโทษแฟนชาวไทยที่ทำได้แค่เหรียญทองแดงและขอบคุณแฟนกีฬาชาวไทยส่งแรงใจเชียร์มาตลอด

ทำให้ปิดฉาก "อินชอนเกมส์" ทัพนักกีฬาไทยได้อันดับ 6 ของคว้าไปทั้งสิ้น 12 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน และ 28 ทองแดง เป็นรองแค่ จีน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, คาซัคสถาน และอิหร่าน ถือว่าดีกว่าเมื่อ 4 ปีก่อนที่จบอันดับ 9 คว้ามาได้ 11 ทอง 9 เงิน 32 ทองแดง และยังคงครองเบอร์ 1 ของอาเซียนต่อไป

สำหรับยอดอัดฉีดนักกีฬาไทยจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ตามหลักเกณฑ์เหรียญทองละ 1 ล้านบาท เหรียญเงิน 500,000 บาท และ เหรียญทองแดง 200,000 บาท ผู้ฝึกสอนได้รับ 20 เปอร์เซ็นต์ (ในกรณีทีมมากกว่า 7 คน ได้รับ 10 เปอร์เซ็นต์) และสมาคมกีฬาได้รับ 30 เปอร์เซ็นต์ (ไม่เกิน 6 ล้านบาท) โดยนักกีฬาทีมชาติไทยจบผลงาน “อินชอนเกมส์” ด้วย 12 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน และ 23 เหรียญทองแดง ได้รับเงินอัดฉีดรวมทั้งสิ้น 86.67 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินรางวัลนักกีฬา 62.5 ล้านบาท ผู้ฝึกสอน 9.62 ล้านบาท และ สมาคมกีฬาได้ 14.55 ล้านบาท

ทั้งนี้ สมาคมกีฬาที่รับเงินรางวัลมากที่สุด ได้แก่ สมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย ที่คว้า 4 เหรียญทองจาก ตะกร้อทีมชุด ชาย-หญิง และ ทีมเดี่ยว ชาย - หญิง รับไป 44.4 ล้านบาท แบ่งเป็น นักกีฬา 34 ล้านบาท ผู้ฝึกสอน 4.4 ล้านบาท และ สมาคม 6 ล้านบาท รองลงไป คือ สมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย ที่ได้ 1 เหรียญทองประเภททีมหญิง 1 เหรียญเงิน บุคคล หญิง บุษบากร สุขพันธ์ และ ทีมชาย รับ 6.75 ล้านบาท โดยนักกีฬารับ 4.5 ล้านบาท ผู้ฝึกสอน 900,000 บาท และสมาคมกีฬารับ 1.35 ล้านบาท และอันดับ 3 เป็นสมาคมเรือใบแห่งประเทศไทยฯที่ทำผลงาน 1 เหรียญทอง จากประเภท ทเวนตี้ไนเนอร์ส หญิง นพเก้า พูนพัฒน์ และ นิชาภา ไวไหว 1 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง รับ 5.4 ล้านบาท

สำหรับการจัดงานเลี้ยงฉลองชัยนักกีฬา และมอบเงินรางวัลนั้น นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะประสานไปยังรัฐบาล เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน คาดว่างานจะมีขึ้นในวันที่ 13 หรือ 14 ตุลาคมนี้