กฟผ.ลุยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์-ถ่านหิน

กฟผ.ลุยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์-ถ่านหิน

กฟผ.เตรียมพร้อมแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และถ่านหินสะอาดเพิ่มเติม ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่

นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. เปิดเผยว่า ทางกฟผ. มีความพร้อมที่จะลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ต้องการจะลดสัดส่วนการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติลง ซึ่งต้องรอดูแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่ ที่จะออกมาก่อนว่าจะมีการระบุแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จำนวนกี่เมกะวัตต์ และจะเข้าสู่ระบบในปีใดบ้าง

ทั้งนี้ในแผนพีดีพี ฉบับปรับปรุงครั้งที่3 (ปี2555-2573) ซึ่งเป็นฉบับเดิม กำหนดให้กฟผ.สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด จำนวน 4 โรง โรงละ 800 เมกะวัตต์ รวม 3,200 เมกะวัตต์ โดยจะเข้าสู่ระบบในปี2562, 2565, 2568 และ 2571 ส่วนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ระบุไว้ในแผนเดิมจะมีจำนวน 2 โรง โรงละ 1,000 เมกะวัตต์ รวม 2,000 เมกะวัตต์ จะเข้าสู่ระบบในปี2569 และ 2571

“กฟผ.มีศักยภาพที่จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินได้มากกว่า 4 โรง แต่ก็ขึ้นอยู่กับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าหรือพีดีพีฉบับใหม่ ว่าจะระบุอย่างไร ส่วนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กฟผ.อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในเรื่องของบุคลากร เทคโนโลยี และข้อกฎหมาย ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว“ นายสุนชัย กล่าว

นายสุนชัย กล่าวถึงการประชุมรัฐมนตรีด้านพลังงานในกลุ่มประเทศอาเซียนที่ สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 22-23 ก.ย.นี้ว่า กฟผ. เตรียมรายงานความคืบหน้าโครงการต่างๆ ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติอนุมัติแล้วให้กลุ่มประเทศอาเซียนรับทราบ อาทิ โครงการพลังงานทดแทนโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ชุดที่ 4-7 ปัญหาอุปสรรคในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ที่อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่

นายรัตนชัย นามวงศ์ รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้า กฟผ.กล่าวถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด ที่จ.กระบี่ ว่า กฟผ.จะมีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ ครั้งที่ 3 ในเรื่องระบบการขนส่งถ่านหิน ในวันที่ 28 ก.ย.นี้ ส่วนในวันที่ 12 ต.ค.จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับโรงไฟฟ้า ซึ่งหลังจากนั้นก็จะมีการรวบรวมความคิดเห็นต่างๆ นำเสนอเพื่อขออนุมัติตามขั้นตอน คาดว่าน่าจะเริ่มกระบวนการก่อสร้างในปี2558 นี้

ในส่วนของการเตรียมความพร้อมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้น กฟผ. มีความร่วมมือกับบริษัท ไชน่า กว่างตง นิวเคลียร์ พาวเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ในการส่งบุคลากรไปฝึกอบรมทุกปี ปีละ 20-25 คน โดยตั้งงบประมาณเตรียมการด้านบุคลากรเอาไว้ปีละประมาณ 30 ล้านบาท

สำหรับข้อเสนอของกลุ่มขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน ที่จะให้ถอดโรงไฟฟ้าถ่านหินออกจากแผนพีดีพีฉบับปัจจุบัน นั้น กฟผ.พร้อมที่ชี้แจงให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะประชาชนจะต้องรับภาระค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น และประเทศจำเป็นจะต้องมีการกระจายเชื้อเพลิง จากที่ปัจจุบันพึ่งพาก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าในส่วนที่สูง

นายชวลิต พิชาลัย ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. กล่าวว่า ในวันที่ 18 ก.ย. นี้ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะเรียกผู้บริหารกระทรวงพลังงานมาสอบถามความคืบหน้าการดำเนินงานของแต่ละหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พร้อมหารือถึงแนวทางการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน โดยเฉพาะก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวี ที่ในท้ายที่สุดราคาจะต้องถูกปรับขึ้นให้สะท้อนต้นทุน